จะเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ต้องดูให้ดีๆ ไม่ใช่จะใช่สุ่มสี่สุ่มห้าเอาชนิดไหนก็ได้นะ เอาน้ำมันเกียร์ออโต้ไปเติมใส่ในรถเกียร์ธรรมดา หรือเอาน้ำมันเกียร์ธรรมดาไปใส่ในรถที่เป็นเกียร์ออโต้ ถึงแม้จะดูเหมือนว่าเติมและขับต่อไปได้ แต่ประสิทธิภาพในการทำงาน และผลระยะยาวไม่ดีต่อรถแน่ๆ น้ำมันเกียร์ออโต้ VS น้ำมันเกียร์ธรรมดา มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันอย่างไร ทำไมถึงไม่ควรให้แทนกัน
คุณสมบัติ น้ำมันเกียร์ธรรมดา (เกียร์แมนนวล)
- การทนต่อความร้อน – ด้วยลักษณะการใช้งานของเกียร์ธรรมดาที่จะต้องมีการเปลี่ยนเกียร์ด้วยตัวเองอยู่ตลอดเวลา จึงอาจมีการเสียดสีของเกียร์และทำให้เกิดอุณหภูมิสูงขึ้นได้ ดังนั้น น้ำมันเกียร์ธรรมดาจะมีคุณสมบัติในการทนความร้อนสูง และยังมีจุดเดือดที่สูงกว่า ซึ่งหากใครเลือกใช้น้ำมันเกียร์ออโต้มาใส่ในเกียร์ธรรมดา อาจมีการทนต่อความร้อนไม่เพียงพอ และชิ้นส่วนภายในระบบเกียร์อาจสึกหรอหรือเสียหายได้
- ความหนืดของน้ำมัน – ความหนืดของน้ำมันเกียร์ มีผลต่อระบบการทำงานของระบบเกียร์ เกียร์ธรรมดาจะมีกลไกที่ไม่ซับซ้อน อีกทั้งระบบการเหยียบคลัตช์ การสับเกียร์ ก็ต้องใช้ความหนืดมากเพื่อช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์ทำได้ง่าย และยังช่วยป้องกันการสึกหรอที่เกิดจากการเสียดสีกันได้ ดังน้ำมันเกียร์จะมีความหนืดมากกว่าเกียร์ออโต้
- สารเพิ่มประสิทธิภาพของน้ำมันเกียร์ – โดยการใช้งานที่หนักกว่า ในน้ำมันเกียร์ธรรมดาจึงมีการเติมสารเพิ่มประสิทธิภาพประเภทที่ช่วยลดแรงกดแรงกระแทกเข้าไปด้วย
คุณสมบัติ น้ำมันเกียร์ออโต้ (เกียร์อัตโนมัติ)
- การทนต่อความร้อน – ด้วยการทำงานของระบบเกียร์ออโต้นั้น เป็นระบบฟันเฟืองภายใน มีการเข้าเกียร์ได้โดยอัตโนมัติ ดังนั้นการเสียดสีจึงมีน้อยกว่าเกียร์ธรรมดา น้ำมันเกียร์จึงทนความร้อนได้ต่ำกว่า เพราะไม่ได้มีความจำเป็นต้องทนความร้อนสูงมากขนาดนั้น
- ความหนืดของน้ำมัน – ระบบการทำงานของเกียร์ออโต้จะมีความซับซ้อนมากกว่า และยังประกอบด้วยชิ้นส่วนเล็กๆ มากมาย ดังนั้นน้ำมันเกียร์ออโต้จะมีความหนืดที่ต่ำกว่า เพื่อที่จะทำให้น้ำมันสามารถไหลแทรกซึมไปยังชิ้นส่วนเล็กๆ ได้อย่างสะดวก หากมีความหนืดมากเกินไปน้ำมันจะไม่สามารถเข้าไปได้ทั่วถึง ชิ้นส่วนภายในขาดการหล่อลื่นและเกิดการเสียดสีจนทำให้เกิดการสึกหรอ ดังนั้น หากนำน้ำมันเกียร์ธรรมดาที่มีความหนืดมากๆ มาใช้กับเกียร์ออโต้ รับรองว่าเกียร์พังเร็วแน่ๆ
- สารเพิ่มประสิทธิภาพของน้ำมันเกียร์ – ในส่วนของน้ำมันเกียร์ออโต้นั้น จะมีการเติมสารลดการเกิดฟองเข้าไปด้วย เพราะเกียร์มีฟันเฟืองมากจะเกิดฟองได้ง่าย
เห็นแล้วใช่ไหมว่า น้ำมันเกียร์ทั้งสองประเภทไม่ได้มีคุณสมบัติที่เหมือนกันเลย เพราะถูกออกแบบมาเพื่อให้เหมาะสมกับกระบวนการใช้งานของระบบเกียร์นั้นๆ และยังมีการเติมสารเพิ่มประสิทธิภาพที่แตกต่างกันอีกด้วย ดังนั้น จึงควรใช้น้ำมันเกียร์ให้ถูกประเภท เพื่อให้น้ำมันเกียร์ได้ทำหน้าที่ได้อย่างเต็มที่และช่วยยืดอายุเกียร์ไม่ให้พังเร็ว