ความสำคัญของการ เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง และระยะเวลาที่เหมาะสมของการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง … ปัจจุบันนี้งานต่างๆ เช่น งานอุตสาหกรรม งานก่อสร้าง การขนส่งรถ เป็นต้น มีบทบาทสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจภายในประเทศอย่างมาก ซึ่งล้วนเป็นงานที่จำเป็นต้องมีการใช้รถทั้งสิ้นไม่ว่าจะเป็นรถบรรทุก รถแทรกเตอร์ รถตัก รถเกลี่ยดิน รถขุด รถยก รถเครน แม้กระทั่งรถยนต์ สิ่งที่สำคัญและต้องเปลี่ยนบ่อยที่สุดคือ “น้ำมันเครื่อง”
ผลิตภัณฑ์น้ำมันเครื่อง
ความสำคัญของน้ำมันเครื่อง
น้ำมันเครื่อง เป็นน้ำมันหล่อลื่นชนิดหนึ่งมีหน้าที่สำคัญในการหล่อลื่นเครื่องยนต์ เพื่อให้เครื่องยนต์สามารถทำงานได้อย่างราบรื่น และมีประสิทธิภาพ ในขณะที่เครื่องยนต์กำลังทำงานชิ้นส่วนต่างๆ ในระบบก็ทำงานด้วย ซึ่งในขณะทำงานจะเกิดการเสียดสีกันของชิ้นส่วนต่างๆ ในระบบ ถ้าหากไม่มีน้ำมันหล่อลื่นช่วยในการทำงาน ชิ้นส่วนต่างๆ ที่เสียดสีกันจะทำให้เครื่องยนต์เกิดความร้อนสะสม และเมื่อความร้อนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนถึงจุดๆ หนึ่ง ที่เรียกว่า “OVERHEAT” เครื่องยนต์จะเกิดการน็อก และไม่สามารถใช้งานได้ นอกจากนี้เครื่องยนต์ที่มีความร้อนมากอาจทำให้เครื่องยนต์สึกหรอเร็วกว่ากำหนด และทำให้กำลังของเครื่องยนต์ลดลงได้
จึงจำเป็นต้องใช้น้ำมันเครื่อง ซึ่งน้ำมันเครื่องที่ดีควรมีหน้าที่สำคัญ ดังนี้
- ช่วยให้เครื่องยนต์สตาร์ทติดง่าย
- หล่อลื่นชิ้นส่วนต่างๆ ลดแรงฝืด หรือแรงเสียดทานของระบบเครื่องยนต์
- ป้องกันการสึกหรอ
- ป้องกันการกัดกร่อน ที่เกิดจากเศษชิ้นส่วนที่หลุดออกมา
- ชะล้างเขม่าทำให้ระบบเครื่องยนต์สะอาด
- ระบายความร้อนให้เครื่องยนต์
- ช่วยอุดรอยรั่วในห้องเผาไหม้ ช่วยเพิ่มแรงอัดให้กับเครื่องยนต์
- ป้องกันการเกิดฟองอากาศ
ถ้าน้ำมันเครื่องที่ใช้งานบกพร่อง หรือไม่มีประสิทธิภาพดังข้างต้นแล้ว รวมถึงน้ำมันเครื่องที่ไม่ได้คุณภาพตามมาตรฐาน จะก่อให้เกิดปัญหาขึ้นกับเครื่องยนต์ และอายุการใช้งานของเครื่องยนต์สั้นลงเกินกว่ากำหนด จึงควรหมั่นสังเกต และวิเคราะห์ว่าสมควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องเมื่อไหร่
ระยะเวลาในการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง
เครื่องยนต์แต่ละชนิดนั้นมีการทำงานที่แตกต่างกัน แม้ว่าจะเป็นเครื่องยนต์ชนิดเดียวกันยี่ห้อเดียวกันก็มีการทำงานที่ไม่เหมือนกัน โดยจะขึ้นอยู่กับลักษณะสภาพของเครื่องยนต์ ในการใช้งาน ควรปฏิบัติตามหนังสือคู่มือในเรื่องของการเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง หรืออาจจะสังเกตจากไฟเตือนว่าให้ เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ได้แล้ว ซึ่งจะขึ้นโชว์ที่หน้าปัด นอกจากนี้สภาพการใช้งานก็มีส่วนสำคัญ เช่น
- มีสภาพการใช้งานที่หนักมาก เช่น ในการจราจรที่แออัด การระบายความร้อนได้ไม่ดี ใช้งานในบริเวณที่มีฝุ่นละอองมาก ระยะเวลาในการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องควรเปลี่ยนให้เร็วกว่ากำหนดประมาณ 50%
- ความเร็วในการใช้งาน ถ้ารู้สึกว่าวิ่งเร็ว คือใช้ความเร็วมาก ควรเปลี่ยนให้เร็วกว่ากำหนดไว้ก่อน
นอกจากนี้ ควรรู้ว่าน้ำมันที่เราใช้เป็นน้ำมันประเภทใด ถ้าเป็นน้ำมันเครื่องธรรมดา จะมีความสามารถในการทนความร้อนได้น้อยกว่า อายุการใช้งานจะสั้นกว่าน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ 100% ซึ่งเป็นน้ำมันที่ดีที่สุด เพราะมีความสามารถทนความร้อนได้สูงมากกว่า ทำให้ระยะการเปลี่ยนถ่ายจะยาวนานกว่า
การหมั่นดูแลรักษาคอยตรวจเช็คน้ำมันเครื่องยนต์อยู่ตลอดเวลา เปลี่ยนน้ำมันเครื่องก่อนที่น้ำมันเครื่องจะหมดอายุ หรือเสื่อมคุณภาพ และเลือกน้ำมันเครื่องให้ถูกต้องตามชนิด และเบอร์ความหนืดของเครื่องยนต์ จะช่วยให้เครื่องยนต์ของเรามีอายุการใช้งานที่ยาวขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพอีกด้วย