การดูแลรักษารถยนต์ให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์พร้อมใช้งานอยู่เสมอ นอกจากจะตรวจเช็คชิ้นส่วนต่างๆ แล้วนั้น น้ำมันหล่อลื่นก็สำคัญ ซึ่งมีทั้ง น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ น้ำมันเบรค น้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์ เป็นต้น บางจุดเราอาจไม่รู้ว่าควรต้องดูแลด้วยอย่างเช่น น้ำมันเบรค คืออะไร มาทำความรู้จักความสำคัญของน้ำมันเบรคกันก่อน
น้ำมันเบรค คืออะไร
น้ำมันเบรค เป็นสารหล่อลื่นชนิดหนึ่ง แต่ไม่ใช่น้ำมัน เพราะมีส่วนผสม อีเทอร์(Ether) และ ไกลคอล (Glycol) แต่ก็เรียกให้เข้าใจง่ายๆ ว่า “น้ำมันเบรค” เนื่องจากมีคุณสมบัติในการหล่อลื่นเหมือนน้ำมันนั่นเอง
ประเภทของน้ำมันเบรค
หากจะแบ่งแยกประเภทของน้ำมันเบรค โดยความแตกต่างของแต่ละ Dot คือจุดเดือด แบ่งเป็น 3 ประเภทหลักๆ ด้วยกันคือ
- Dot3 – มีแบ่งแยกย่อยเป็น Dot3 ธรรมดา, Super Dot3 มีจุดเดือด ปกติ 205 องศาเซลเซียส, กรณีมีความชื้น 140 องศาเซลเซียส
- Dot4 – มีแบ่งแยกย่อยเป็น Super Dot4 มีจุดเดือด ปกติ 230 องศาเซลเซียส, กรณีมีความชื้น 155 องศาเซลเซียส
- Dot5 – มีแบ่งแยกย่อยเป็น Dot5.1 ซึ่งมักใช้งานสำหรับรถ super car มีจุดเดือด ปกติ 260 องศาเซลเซียส, กรณีมีความชื้น 180 องศาเซลเซียส
คุณสมบัติของน้ำมันเบรคที่ดี
– จุดเดือดของน้ำมันเบรค
จุดเดือดของน้ำมันเบรค จะแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการเบรครถ เมื่อมีการเบรคจะมีการเสียดสีของผ้าเบรคกับจานเบรค แล้วมีความร้อนเกิดขึ้น ความร้อนนั้นจะถูกส่งต่อไปถึงน้ำมันเบรค ทำให้น้ำมันเบรคมีอุณหภูมิสูงขึ้น ดังนั้นควรใช้น้ำมันเบรคที่มีจุดเดือดสูง จะลดการทำให้น้ำมันเบรคเดือดจนระเหยกลายเป็นไอ และทำให้เกิดฟองอากาศขึ้นภายในระบบเบรค
– ไม่ทำปฏิกิริยากับซีลยาง
น้ำมันเบรคที่ดีต้องไม่ทำปฏิกิริยากับซีลยางและท่อยาง โดยจะไม่ทำให้ซีลยางแข็งตัวหรืออ่อนตัว และไม่ทำให้ซีลยางหดตัวหรือขยายตัวเกินขนาด จนทำให้ซีลบวม ไม่อย่างนั้นอาจทำให้ระบบเบรคเกิดการรั่วซึมได้
– ไม่ทำปฏิกิริยากับโลหะ
น้ำมันเบรคที่ดีต้องไม่ทำปฏิกิริยากับโลหะ เช่น เหล็ก ทองแดง ทองเหลือง และอลูมิเนียม โดยในน้ำมันเบรคจะมีสารเพิ่มคุณภาพใส่เข้าไปเพื่อป้องกันการกัดกร่อนโลหะ
– การหล่อลื่น
แน่นอนว่าน้ำมันเบรคมีคุณสมบัติในการหล่อลื่นอยู่แล้ว โดยจะช่วยหล่อลื่นชิ้นส่วนที่เกิดการเคลื่อนที่ไม่ให้มีการเสียดสีหรือกระทบกัน เป็นการลดแรงเสียดทานและลดการสึกหรอของชิ้นส่วนนั้นๆ
นอกจากน้ำมันเบรค ก็ยังมีน้ำมันหล่อลื่นส่วนอื่นๆ ที่คุณควรใช้ในการดูแลรถคุณ