พฤติกรรมทำร้ายรถ โดยไม่รู้ตัว

หยุด!! พฤติกรรมทำร้ายรถ โดยไม่รู้ตัว

เพราะรถของคุณต้องการการดูแลเอาใจใส่และบำรุงรักษาตามระยะเวลา หากละเลยเพียงน้อยนิดและคิดว่าไม่เป็นอะไร อาจส่งผลเสียมากกว่าที่คิด หยุดพฤติกรรมต่อไปนี้ถ้าไม่อยากให้เป็น พฤติกรรมทำร้ายรถ โดยไม่รู้ตัว 

ไม่เคยสังเกตสัญญาณไฟบนหน้าปัดรถยนต์

รถยนต์แต่ละคันต้องมีหน้าปัดรถยนต์ที่อยู่ข้างหน้าคนขับอยู่แล้ว เพราะนี่คือสิ่งที่จะมีการแจ้งเตือนคนขับรถได้ นอกจากจะสามารถดูเรื่อง น้ำมันรถ ไมล์รถยนต์ ยังมีสัญลักษณ์แจ้งเตือนอยู่มากมาย ที่ในยามปกติก็จะไม่มีแจ้งขึ้นมา แต่ถ้ารถของเรามีอาการผิดปกติอะไรบางอย่าง ที่หน้าจอก็จะมีการแจ้งเตือนให้คนขับทราบเพื่อดำเนินการแก้ไข อย่างเช่น มีสัญญาณรูปเครื่องยนต์ติดขึ้นมา แสดงว่าเครื่องยนต์ต้องมีปัญหา รีบตรวจสอบหาสาเหตุ บางทีอาจเป็นสาเหตุเล็กน้อยก็แก้ไขได้เอง แต่ถ้าเป็นอาการมากกว่านี้ก็จะได้รีบหาสาเหตุและซ่อมแซมก่อนที่จะสายเกินไป

ไม่เคยคิดจะล้างรถเลย

บางคนก็จอดรถทิ้งไว้อย่างนั้น ไม่เคยคิดจะดูแล เอาไปล้างหรือทำความสะอาดรถบ้างเลย ถ้าเป็นแค่เพียงฝุ่นเล็กๆ น้อยๆ อาจไม่ได้ทำให้รถเสียหายเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นคราบสกปรกอย่างเช่น ยางไม้ ขี้นก คราบสิ่งสกปรกที่กระเด็นมาใส่ ถ้าปล่อยเอาไว้เรื่อยๆ คราบนั้นก็จะฝังแน่นและทำให้สีรถเสียหายได้ แล้วทีนี้รถสวยๆ ก็จะขี้เหร่ไปทันตา จะซ่อมสีรถค่าใช้จ่ายไม่ใช่น้อยๆ

ไม่ตรวจดูยางรถยนต์

บางคนขับรถก็มีหน้าที่ขับเพียงอย่างเดียว ไม่ได้มาดูแลยางรถยนต์เลยว่าไหวและพร้อมพาเราเดินทางหรือเปล่า ยางอ่อนไปควรเติมแล้วหรือยัง หากอ่อนไปแล้วบดใช้อยู่อย่างนั้นเสี่ยงยางแตก สภาพของยางเป็นอย่างไร ดอกยางหมดเสี่ยงรถลื่นเวลาฝนตก ยางแข็งจากอายุที่ยาวนาน แม้ไม่ค่อยได้ออกไปขับ แต่สมรรถนะในการขับขี่เสียไป ทั้งหมดนี้ล้วนมีผลต่อความปลอดภัยในการขับขี่ทั้งสิ้น 

ขับรถไม่ทะนุถนอม พฤติกรรมทำร้ายรถ

ใช่ว่ามีรถยนต์เป็นของตัวเองแล้วจะขับอย่างไรก็ได้ เพราะรถอาจไม่พร้อมทำงานในลักษณะนั้น เช่น ขับขี่เร็วเร่งรถโดยไม่จำเป็น, เบิ้ลรถแรงๆ ซ้ำๆ , ออกตัวแรงอย่างไม่ค่อยเป็นค่อยไป เสี่ยงเกียร์พัง เครื่องพัง ก่อนกำหนด เสียเงินซ่อมอีกเป็นหลักพันหลักหมื่นแล้วจะเสียใจ แค่ขับรถตามปกติก็ไม่เป็นการทำร้ายรถแล้ว

บรรทุกหนักเกินกำลัง

ถึงแม้จะเป็นรถกระบะหรือรถบรรทุกก็แล้วแต่ การแบกของหนักเกินกำลังที่รถจะรับไหว เป็น พฤติกรรมทำร้ายรถ แบบตรงๆ เลยล่ะ ทั้งทำให้ช่วงล่างเสียเร็ว และยังกินน้ำมันมาก ถึงแม้คุณจะขนของต่อเที่ยวได้มากขึ้น ก็ต้องเสียเงินไปกับน้ำมันรถและค่าบำรุงรักษาที่จะตามมาอยู่ดี ทางที่ดีควรบรรทุกแต่พอดี หากมากเกินไปควรขยับไปใช้รถที่รองรับการบรรทุกได้มากขึ้นจะดีกว่า

ไม่เปลี่ยนของเหลวตามอายุการใช้งาน

ไม่ว่าจะลืมเปลี่ยน หรือขี้เกียจเปลี่ยน เอาไว้ก่อนค่อยเปลี่ยนทีหลัง หรือคิดว่าไม่เปลี่ยนก็ไม่เห็นเป็นไร เหตุผลใดก็แล้วแต่ ย่อมเป็นการทำร้ายรถของคุณทั้งสิ้น เพราะของเหลวที่ใช้กับรถยนต์นั้น ไม่ว่าจะเป็น น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ น้ำมันเบรก น้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์ น้ำยาหล่อเย็น ฯลฯ ล้วนมีอายุการใช้งาน และเสื่อมสภาพไปตามการเวลา จริงอยู่ว่าถึงไม่เปลี่ยนถ่ายของเหลวแล้วรถก็ยังวิ่งได้ แต่ลองคิดว่าสิ่งสกปรกที่อยู่ภายในของเหลวเหล่านี้หมุนวนอยู่ในระบบเรื่อยๆ นอกจากไม่ได้ช่วยให้ดีขึ้น ยังไปทำให้ชิ้นส่วนภายในสึกหรอ นานๆ เข้ารถพังไปอีก เพราะฉะนั้น อย่าคิดว่าไม่เป็นไร ถึงระยะเปลี่ยนถ่ายก็ควรเปลี่ยน

สนใจช้อปผลิตภัณฑ์น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ยูคอน  ได้ที่