สลับยางรถยนต์ ตอนไหนดี? และมีประโยชน์อย่างไร? เป็นคำถามที่หลายคนสงสัยกันใช่ไหมละ การสลับยางรถยนต์ คือ การเปลี่ยนตำแหน่งยาง ไปยังตำแหน่งอื่นๆ เช่น เอายางล้อหน้า ไปไว้ที่ล้อหลัง ซึ่งการสลับยางรถยนต์ในแต่ละรุ่นนั้น ต้องดูด้วยว่า เป็นรถขับเคลื่อนแบบใด ขับเคลื่อนล้อหน้า หรือหลัง หรือขับเคลื่อน 4 ล้อ เพราะแต่ละแบบจะสลับยางไม่เหมือนกัน
สลับยางรถยนต์ ตอนไหนดี?
ตามหลักการพื้นฐานแล้ว ผู้เชี่ยวชาญมักแนะนำให้มีการสลับยางรถยนต์ทุกๆ 6 เดือน หรือ 10,000 กม. แต่ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆอีกด้วย เช่น ลักษณะการขับขี่ ซึ่งเป็นปัจจัยหลัก, แรงดันลมยาง, การรับน้ำหนักของยาง, สภาพถนน, สภาพของช่วงล่าง หรือแม้แต่อุณหภูมิของพื้นผิวถนนก็ตาม
ถ้าตัวยางไม่เกิดความเสียหาย บิดเบี้ยว บวมปูด ปริแตกฉีกขาด เราสามารถใช้งานได้จนดอกยางหมดเลยทีเดียว แต่เนื้อยางจะค่อนข้างแข็งกระด้าง เมื่อสัมผัสพื้นผิวถนนจะมีเสียงดังมากขึ้น ทำให้ประสิทธิภาพในการเบรค และการยึดเกาะถนนลดลงอีกด้วย ดังนั้นการสลับยางรถยนต์ ไม่จำเป็นจะต้องรอให้ถึงระยะเสมอไป ควรมีการสังเกต ตรวจเช็คยางอยู่เป็นประจำว่า หน้ายางมีการสึกหรอผิดปกติหรือไม่ โดยเฉพาะผู้ที่ขับขี่เดินทางไกลบ่อยๆ และใช้ความเร็วสูงอยู่เป็นประจำ จะยิ่งทำให้ยางเกิดการสึกหรอเร็วขึ้น และอาจจะต้องเปลี่ยนยางเร็วกว่าที่ควรจะเป็น
วิธีสลับยางรถยนต์ ให้เหมาะสมกับรถแต่ละแบบ
- รถยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้า
สำหรับรถขับเคลื่อนล้อหน้า สามารถสลับยางรถยนต์ได้ คือ
ล้อหน้า : นำล้อด้านหน้าซ้าย ไปไว้ด้านหลังซ้าย นำล้อด้านหน้าขวา ไปไว้ด้านหลังขวา
ล้อหลัง : นำล้อหลังด้านซ้าย ไปไว้ด้านหน้าขวา และนำล้อหลังด้านขวา ไปไว้ด้านหน้าซ้าย
credit : goodyear
- รถยนต์ขับเคลื่อนล้อหลัง
รถขับเคลื่อนล้อหลัง สามารถสลับยางรถยนต์ได้ คือ
ล้อหน้า : นำล้อด้านหน้าซ้าย ไปไว้ด้านหลังขวา นำล้อด้านหน้าขวา ไปไว้ด้านหลังซ้าย
ล้อหลัง : นำล้อหลังด้านซ้าย ไปไว้ด้านหน้าซ้าย และนำล้อหลังด้านขวา ไปไว้ด้านหน้าขวา
credit : goodyear
- รถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อ
เป็นการสลับแบบ ทแยงมุม และควรมีการสลับยางรถยนต์ทุกๆ 5,000 กม.
ล้อหน้า : นำล้อด้านหน้าซ้าย ไปไว้ด้านหลังขวา และนำล้อด้านหน้าขวา ไปไว้ด้านหลังซ้าย
ล้อหลัง : นำล้อด้านหลังซ้าย ไปไว้ด้านหน้าขวา และนำล้อหลังด้านขวา ไปไว้ด้านหน้าซ้าย
credit : goodyear
- สำหรับยางที่มีดอกยางทิศทางเดียว
สำหรับยางที่มีดอกยางทิศทางเดียว จะเป็นลายดอกยางแบบพิเศษ ซึ่งจะต้องอยู่ทางซ้ายหรือไม่ก็ทางขวาของรถเท่านั้น บนแก้มยางจะมีสัญลักษณ์บ่งบอกเอาไว้ เพื่อให้รู้ว่ายางเส้นนั้นๆควรจะอยู่ด้านไหน หากสลับยางไม่ถูกวิธี จะทำให้เกิดอันตรายได้ วิธีการสลับยางรถยนต์ แบบดอกยางทิศทางเดียว คือ
ล้อหน้า : นำล้อด้านหน้าซ้าย ไปไว้ด้านหลังซ้าย นำล้อด้านหน้าขวา ไปไว้ด้านหลังขวา
ล้อหลัง : นำล้อหลังด้านซ้าย ไปไว้ด้านหน้าซ้าย และนำล้อหลังด้านขวา ไปไว้ด้านหน้าขวา
credit : goodyear
- สำหรับรถที่ใส่ล้อและยาง ด้านหน้ากับด้านหลัง มีขนาดไม่เท่ากัน
ล้อหน้า : นำล้อด้านหน้าซ้าย สลับกับ ล้อหน้าด้านขวา
ล้อหลัง : นำล้อหลังด้านซ้าย สลับกับ ล้อหลังด้านขวา
- การสลับยางแบบใช้ยางอะไหล่ด้วย
คือ การทำให้ยางทั้ง 5 เส้น มีการสึกหรอที่เท่ากัน โดยสามารถสลับยางรถยนต์ได้ 2 แบบ
แบบที่ 1
ล้อหน้า : นำล้อด้านหน้าซ้าย ไปไว้ที่ล้อหลังด้านซ้าย และนำล้อด้านหน้าขวา ไปเป็นยางอะไหล่แทน
ล้อหลัง : นำล้อหลังด้านซ้าย ไปไว้ที่ล้อหน้าด้านขวา และนำล้อหลังด้านขวา ไปไว้ที่ล้อด้านหน้าซ้าย
ยางอะไหล่ : มาไว้ที่ล้อหลังด้านขวา
แบบที่ 2
ล้อหน้า : นำล้อด้านหน้าซ้าย ไปเป็นยางอะไหล่แทน และนำล้อด้านหน้าขวา ไปไว้ที่ล้อหลังด้านซ้าย
ล้อหลัง : นำล้อหลังด้านซ้าย ไปไว้ที่ล้อด้านหน้าซ้าย และนำล้อหลังด้านขวา ไปไว้ที่ล้อด้านหน้าขวา
ยางอะไหล่ : มาไว้ที่ล้อหลังด้านขวา
สลับยางรถยนต์ มีประโยชน์อย่างไร?
- ช่วยให้ดอกยางล้อคู่หน้า กับคู่หลัง มีการสึกหรอที่เท่ากัน
- ช่วยให้ใช้ยางได้อย่างเต็มประสิทธิภาพทุกเส้น
- ช่วยยืดอายุการใช้งานของยางรถยนต์ให้ยาวนานขึ้น และช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย ไม่ต้องเปลี่ยนยางเส้นใหม่
ถ้าไม่สลับยาง จะส่งผลอย่างไร?
- จะส่งผลต่อการสึกหรอของยางทั้ง 4 เส้น จะมีการสึกหรอไม่เท่ากัน
- ทำให้หน้าสัมผัสระหว่างยางกับพื้นถนนน้อยลง ประสิทธิภาพในการยึดเกาะก็น้อยลงตามไปด้วย
- พวงมาลัยจะเบี้ยวไม่ตรง มักจะกินซ้าย หรือขวาเล็กน้อย
- เวลาเบรคแรงๆ มักจะดึงซ้ายหรือดึงขวา ด้านใดด้านหนึ่ง
ยางคู่หน้า จะมีการสึกหรอมากกว่ายางคู่หลัง ประมาณ 2-3 เท่า เป็นผลมาจากภาระต่างๆ จะอยู่ที่ล้อคู่หน้าเป็นส่วนใหญ่ เช่น การบังคับทิศทางการเลี้ยว รวมถึงการเบรคลดความเร็วรถ