ตามปกติบนหน้าปัดรถยนต์นั้นเราจะเห็นว่ามีไอคอนที่แสดงสถานะแจ้งเตือนการทำงานต่างๆ ของรถยนต์ ซึ่งในเวลาที่ขับขี่ก็ควรสังเกตว่ามีไฟเตือนที่ผิดปกติจากเดิมหรือไม่ แล้วถ้ามี ไฟเตือนหน้าปัดรถยนต์ ที่ผิดปกติจะบอกถึงอะไรได้บ้าง?
ไฟเตือนหน้าปัดรถยนต์ บอกถึงอะไร?
• ไฟรูปเครื่องยนต์
หากขับขี่อยู่ดีๆ ไฟขึ้นโชว์รูเครื่องยนต์ขึ้นมา แสดงว่าเครื่องยนต์ต้องมีปัญหาอะไรสักอย่าง ถ้าหากยังขับต่อไปได้ปกติ ก็ต้องดูการแจ้งเตือนอื่นๆ ควบคู่ไปด้วย เช่น ความร้อนสูงมั้ย ถ้าความร้อนก็ยังปกติก็สามารถขับไปได้แต่ควรลดความเร็วลง ควรจะขับอยู่ที่ 1,500-2,000 รอบต่อนาที แล้วรีบเข้าศูนย์หรืออู่ที่ใกล้ที่สุดเพื่อนำไปตรวจเช็คหาสาเหตุของอาการที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นไปได้ทั้งอาการเล็กๆ น้อยๆ ไปจนถึงมาก การจะหาสาเหตุด้วยตัวเองอาจใช้เวลาและไม่แม่นยำเท่าให้ผู้เชี่ยวชาญดูแล
• ไฟกาน้ำมันเครื่อง
ปกติไฟจะติดขึ้นมาตอนที่สตาร์ทรถแล้วดับไป แต่ถ้าเครื่องยนต์ติดแล้วไฟนี้ยังคงขึ้นอยู่ไม่หายไป ควรดับเครื่องยนต์ทันที ถ้าหากไฟขึ้นโชว์ในระหว่างขับรถ ให้ตรวจเช็กอุณหภูมิว่าขึ้นสูงหรือไม่ หากปกติก็ยังพอนำรถเข้าข้างทางแล้วดับเครื่อง จากนั้นดึงก้านวัดน้ำมันเครื่องขึ้นมาเช็คระดับน้ำมันเครื่องว่ายังอยู่ในระดับปกติหรือไม่ หากน้ำมันลดลงไปก็เติมเข้าไปให้พอดี แต่อย่านิ่งนอนใจ ควรเช็คเพิ่มเติมว่ามีปัญหาอื่นอีกหรือไม่ ถ้าไม่มีน้ำมันเครื่องเลยแสดงว่าต้องมีรอยรั่วตรงไหนสักแห่ง หรือประเก็นฝาสูบแตก ทำให้น้ำมันเครื่องเข้าไปในห้องเผาไหม้โดยสังเกตว่ารถมีควันขาวหรือไม่ หากน้ำมันเครื่องเป็นสีกาแฟขุ่น ก็เป็นไปได้ว่าน้ำมันเครื่องรั่วซึมเข้าไปในระบบระบายความร้อน
• ไฟเบรกมือ
ไฟที่มีเครื่องหมายตกใจอยู่ในวงกลมนั้น เป็นไฟแสดงเบรคมือ โดยไฟจะขึ้นถ้าเราดึงเบรกมืออยู่ โดยปกติหากลดเบรกมือลงไฟจะหายไป แต่ถ้าเราไม่ได้ดึงเบรกมือ ไฟก็ยังติดอยู่ เป็นไปได้ว่าน้ำมันเบรกต่ำ หรือถ้าเกิดขึ้นตอนที่เราเลี้ยวรถแรงๆ ก็เกิดขึ้นได้เพราะระบบการทรงตัวของรถกำลังทำงาน และหลังจากเข้าโค้งสู่เส้นทางปกติ ไฟก็หายไป ถ้าไฟยังกระพริบไม่หยุดแสดงว่าระบบไม่ทำงาน ต้องขับรถอย่างระวัง และรีบซ่อมแซม
• ไฟรูปเทอร์โมมิเตอร์สีแดง
ไฟรูปเทอร์โมมิเตอร์ หรือปรอทสีแดง เมื่อโชว์ขึ้นมาแสดงว่ารถความร้อนขึ้นสูงผิดปกติ ซึ่งโดยปกติถ้าความร้อนไม่ได้ขึ้นสูง ตอนที่บิดหมุนกุญแจไฟนี้จะขึ้นเป็นสีฟ้าเพียงแป๊บเดียวแล้วดับไปเมื่อสตาร์ทรถ หากขึ้นสีแดง ให้รีบหาที่จอดรถเข้าข้างทางเพื่อตรวจเช็คระบบทำความเย็น เช่น หม้อน้ำ และระบบไหลเวียนต่างๆ ว่ามีรอยรั่ว แตกร้าวหรือไม่ รวมไปถึงพัดลมระบายอากาศอาจไม่ทำงาน ทำให้ความร้อนขึ้น อย่าปล่อยให้ความร้อนขึ้นสูงจัดจนเครื่องพัง ไม่อย่างนั้นจะเสียเงินซ่อมหนัก
• ไฟแบตเตอรี
หากเครื่องยนต์ทำงานปกติ ไฟแบตเตอรีจะไม่โชว์ แต่ถ้าโชว์ขึ้นมาแสดงว่ามีปัญหา อาจเป็นที่ระบบประจุไฟ หรือระบบชาร์จไฟ ไดชาร์จ เมื่อเจออาการนี้ รีบหาที่จอดข้างทางหรือไปให้ถึงอู่ซ่อมรถ ปิดอะไรที่กินไฟทั้งหมด เช่น ตัวชาร์จไฟในรถต่ออะไรอยู่ให้เอาออกก่อน ปิดแอร์แล้ววิ่งเปิดกระจกรับลมไปก่อน เพื่อไม่ให้แบตเตอรี่ดึงไฟมาใช้มากเกินไปก่อนที่จะจอดรถ สาเหตุเป็นไปได้หลายอย่าง ตั้งแต่ระดับเบาไปหาหนัก เช่น สายพานหย่อนหรือขาดทำให้ไดชาร์จไม่ทำงาน ฟิวส์ขาด แบตเสื่อม แบตหมดอายุ แบตไม่เก็บไฟ อาการเหล่านี้เปลี่ยนได้ แต่ถ้าตัวไดชาร์จมีปัญหาอาจต้องเสียเงินเยอะ