การดูแลเครื่องจักรและระบบไฮดรอลิค เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องดูแลอยู่สม่ำเสมอ เพราะถ้าเกิดระบบไฮดรอลิคขัดข้องขึ้นมา นั่นหมายถึงว่าทุกอย่างย่อมหยุดชะงักตามไปด้วย ดังนั้นควรต้องรู้จักกับ วิธีป้องกันระบบไฮดรอลิกขัดข้อง เพื่อเป็นการป้องกันก่อนระบบพัง
สาเหตุที่ทำให้ระบบไฮดรอลิคพัง เกิดได้จาก
- 80% ของน้ำมันไฮดรอลิกมีสภาพไม่สมบูรณ์
- 10% เกิดจากการวิเคราะห์ปัญหาไม่ถูกต้อง และไม่มีความรู้ดีพอในการแก้ไข
- 5% เกิดจากการติดตั้งระบบไม่ดี
- 5% เกิดจากการใช้งานหนักเกินกำลัง
วิธีป้องกันระบบไฮดรอลิกขัดข้อง
เมื่อเราะรู้สาเหตุการเกิดระบบไฮดรอลิคขัดข้องแล้ว ก็จะสามารถหาวิธีป้องกันได้ ก่อนที่จะมีการขัดข้องเกิดขึน โดยมีวิธีการต่างๆ ดังนี้
ปฏิบัติตามข้อกำหนด
โดยปกติแล้ว ในการใช้เครื่องจักรย่อมมีข้อกำหนดในการใช้งานอยู่แล้ว แต่ถ้าหากละเลยและไม่ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ก็เป็นสาเหตุให้ระบบไฮดรอลิคขัดข้องได้ง่ายๆ เช่น
- การเริ่มต้นติดตั้งระบบไฮดรอลิค หากติดตั้งผิดพลาด โดยใช้ชิ้นส่วนผิดขนาด หรือติดตั้งผิดตำแหน่ง ชิ้นส่วนไม่แน่นสนิทมีการรั่วไหล ย่อมส่งผลเสียตามมาทั้งระบบในไม่ช้า
- การเลือกใช้น้ำมันไฮดรอลิคให้เข้ากับเครื่องจักร เนื่องจากเครื่องจักรแต่ละชนิดมีลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกัน เช่น ทนความร้อน ทนน้ำได้ดี เป็นต้น ใช้ให้เหมาะสมกับประเภทงานที่ใช้ ก็จะช่วยยืดอายุการใช้งานได้
ขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ
แน่นอนว่าเราไม่ได้รู้ไปทุกเรื่อง โดยเฉพาะระบบไฮดรอลิคที่มีการทำงานซับซ้อน อาจต้องมีผู้เชี่ยวชาญช่วยให้คำปรึกษาตั้งแต่เริ่มซื้อใหม่ๆ กันเลย เพราะหากเอามาใช้งานแล้วจะเปลี่ยนคงไม่ได้ รวมไปถึงรับคำแนะนำว่ามีระบบการทำงานอย่างไร ต้องมีการบำรุงรักษาอย่างไร
รวมไปถึงการดูแลรักษาระบบ หากมีผู้เชี่ยวชาญช่วยชี้แนะ จะสามารถดูแลได้อย่างถูกต้องสมบูรณ์ ใช้งานได้ยาวนาน ทั้งในเรื่องของการดูแลระบบไฮดรอลิค และการดูแลน้ำมันไฮดรอลิค ซึ่งสองสิ่งนี้ต้องดูแลควบคู่กันไป หรือไม่ก็ควรมีเครื่องมือหรืออุปกรณ์เพิ่มเติมในการตรวจจับความผิดปกติต่างๆ ในการป้องกันและดูแลรักษา
การบำรุงรักษาระบบไฮดรอลิค
มาถึงการดูแลรักษาระบบไฮดรอลิคกันบ้าง หากการดูแลรักษาไม่ดี หรือผิดวิธี ก็อาจไม่ได้ช่วยมากนัก อย่าลืมว่าต้องดูแลรักษาทั้งตัวระบบและน้ำมันไฮดรอลิค ไม่ละเลยส่วนใดส่วนหนึ่งไป น้ำมันไฮดรอลิคที่ดีไม่มีการปนเปื้อนสิ่งสกปรก ทำให้เราใช้น้ำมันไฮดรอลิคที่มีสภาพไม่สมบูรณ์ในหมุนเวียนอยู่ในระบบเรื่อยๆ อาจทำให้ชิ้นส่วนภายในสึกหรอ และระบบทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ
ซึ่งสิ่งปนเปื้อนในน้ำมันไฮดรอลิคแบ่งเป็น 3 ชนิด คือ
- Solid Particle : การปนเปื้อนของอนุภาคที่มาจาก เศษโลหะ เศษยาง พลาสติก ฝุ่น ไฟเบอร์ ฯลฯ ซึ่งอาจเกิดขึ้นจากการเสียดสีของกระบอกไฮดรอลิคหรือการเสื่อมสภาพของซีล จึงควรมีการกรองสิ่งสกปรกและตรวจสอบอยู่เสมอว่ามีสิ่งปนเปื้อนอยู่หรือไม่
- Water Contamination : การปนเปื้อนของน้ำ ซึ่งการที่ภายในระบบมีน้ำเกิดขึ้น มีสาเหตุได้จาก ความชื้นในอากาศ การปรับเปลี่ยนอุณหภูมิทำให้กลายเป็นหยดน้ำ การรั่วไหลของน้ำเข้ามาสู่ระบบ จึงควรต้องมีการทดสอบความชื้น
- Oxidation by Product : เกิดจากการออกซิเดชั่น หรือการทำปฏิกิริยาเคมีกับอากาศ ทำให้น้ำมันไฮดรอลิคเสื่อมสภาพลง และลดประสิทธิภาพในการทำงานของทั้งระบบลงไป ทดสอบได้โดยการวัดความเป็นกรด หรือวัดค่าออกซิเดชั่นในน้ำมัน เพื่อเป็นการควบคุมคุณภาพของน้ำมันไฮดรอลิค
วิธีป้องกันไม่ให้ระบบไฮดรอลิคขัดข้องไม่ใช่เรื่องยากหากหมั่นดูแลอยู่เสมอ และมีความรอบคอบในการใช้งาน ปฏิบัติงานอย่างถูกต้อง และที่สำคัญควรตรวจเช็คน้ำมันไฮดรอลิคว่าใช้งานได้ปกติดีหรือไม่ และควรเปลี่ยนถ่ายเมื่อถึงเวลา