กำลังจะขับรถออกไปแต่รถสตาร์ทไม่ติด สงสัยว่าแบตหมด แล้วแบบนี้จะทำไงดี? ก่อนอื่นต้องมองหารถคันใกล้ๆ ให้เค้าช่วยจั๊มแบตให้ได้ก่อน แต่ถ้าเจอคนใจดีมาช่วยแล้วแต่ไม่รู้วิธีจั๊มแบตที่ถูกต้อง ก็จะเสียเวลาทั้งสองฝ่าย แนะนำ วิธีการจั๊มแบต อย่างละเอียด ไม่ว่าใครก็ทำได้ง่ายๆ
วิธีการจั๊มแบต เมื่อแบตหมด
- ให้รถคันที่แบตหมด กับรถที่มาช่วยพ่วงแบต จอดหันหน้าเข้าหากัน ถ้าพื้นที่ไม่เพียงพอก็จอดข้างๆ กันได้ ให้สายแบตสามารถพ่วงไปได้ถึง อย่าลืมดึงเบรกมือไว้ กันรถเลื่อนไหลไปชนกันเอง
- เปิดฝากะโปรงรถของทั้งสองคัน เริ่มต้นโดยการนำสายพ่วงแบตหัวสีแดง ไปหนีบตรงขั้วบวกของแบตเตอรี่รถยนต์ คันที่ 1 และคันที่ 2 ตามลำดับ ตอนนี้ทั้งสองคันจะมีสีแดงหนีบอยู่
- จากนั้น รถคันที่มาช่วย ให้นำสายพ่วงแบตหัวสีดำ ไปหนีบตรงประจุขั้วลบของแบตเตอรี
- รถคันที่แบตหมด ให้นำไปหนีบตรงส่วนที่เป็นเหล็กของรถ และไม่ควรไปอยู่ใกล้กับตัวแบตเตอรี
- เมื่อพ่วงครบแล้ว ให้ลองสตาร์ทรถ ทิ้งระยะให้วอร์มเครื่องประมาณ 1-2 นาที แล้วก็พยายามสตาร์ทรถจนกว่าจะติด
- ถ้ายังไม่ติดอีก ลองทิ้งเวลานานอีกนิด ประมาณ 5 นาที และค่อยสตาร์ทรถอีกครั้งจนกว่าจะติด ถ้าสตาร์ทติดแล้ว ทิ้งระยะเวลาอีกอย่างน้อย 5 นาที เป็นอย่างน้อย แล้วค่อยดับเครื่อง แล้วจึงเอาสายพ่วงแบตเตอรี่ออกได้
- ลองสตาร์ทรถด้วยตัวเอง ว่าติดดีแล้ว ควรวอร์มเครื่องอย่างน้อยครึ่งชั่วโมงก่อนขับรถออกไป รีบเปลี่ยนแบตใหม่จะดีที่สุด ถ้าทำแล้วยังไม่หายก็ต้องเรียกช่างแล้วล่ะ
สิ่งที่ต้องมีก่อนจั๊มแบต
- รถอีกคันสำหรับช่วยเราจั๊มแบต
- สายจั๊มแบต ควรมีติดรถไว้เสมอเผื่อฉุกเฉินจะสามารถหยิบใช้ได้ทันที
- แนะนำเพิ่มเติม สำหรับรถคันเล็กๆ อย่างรถเก๋ง มีอุปกรณ์ที่ช่วยชาร์จไฟแบบไม่ต้องพึ่งรถคันอื่นมาช่วย เป็นแบตเตอรี่รถยนต์ฉุกเฉินที่สามารถหาซื้อมาติดรถไว้ หากเป็นอาการแบตเล็กๆ น้อยๆ ก็จะสามารถใช้งานได้ทันที