น้ำยาหล่อเย็น (Coolant) ดีกว่าน้ำเปล่าอย่างไร? น้ำหล่อเย็น หรือที่เรียกกันง่ายๆ ว่า “น้ำหม้อน้ำ” คือ หัวใจหลักของระบบระบายความร้อนเครื่องยนต์ ด้วยความร้อนสะสมในขณะที่เครื่องยนต์ทำงาน ไม่ว่าจะแค่เดินเบาหรือเร่งเครื่องก็ตาม บวกกับอุณหภูมิภายนอก หากระบบระบายความร้อนไม่ดีหรือมีปัญหา อาจส่งผลทำให้เครื่องยนต์ได้รับความเสียหายได้ ซึ่งคิดเป็น 40% เลยทีเดียว ที่เครื่องยนต์เสียหาย หรือทำงานล้มเหลว โดยเกิดจากการระบายความร้อนที่ผิดปกติ
เติมน้ำเปล่าลงในหม้อน้ำได้ไหม?
ปัจจุบันผู้ใช้รถหลายท่านยังมีความเชื่อที่ว่า สามารถใช้น้ำเปล่าเติมหม้อน้ำแทนน้ำยาหล่อเย็นได้ หรือแค่เติมน้ำเปล่าลงในหม้อน้ำก็พอ แต่คุณรู้หรือไม่ว่า น้ำเปล่ามีจุดเดือดเพียง 100 องศาเซียลเซสเท่านั้น อีกทั้งยังอาจก่อให้เกิดสนิมและตะกรันในหม้อน้ำ ทำให้เกิดการอุดตัน และเกิดการรั่วซึมของหม้อน้ำได้อีกด้วย ดังนั้น เพื่อเป็นการดูแลรักษาตัวหม้อน้ำ และการระบายความร้อนให้กับเครื่องยนต์อย่างมีประสิทธิภาพ ควรใช้น้ำยาหม้อน้ำ หรือคูลแลนท์ เติมลงในหม้อนน้ำจะดีที่สุด
credit:roojai
ประโยชน์ของน้ำยาหล่อเย็น (Coolant)
- ช่วยถ่ายเทความร้อนให้กับเครื่องยนต์
ถือว่าเป็นคุณประโยชน์ข้อแรกของน้ำยาหล่อเย็นเลยก็ว่าได้ เมื่อเครื่องยนต์ทำงานอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน จะมีอุณหภูมิที่สูงมากจนเลยจุดเดือด น้ำยาหล่อเย็นจะช่วยขยับจุดเดือดของน้ำที่ไหลเวียนอยู่ในระบบระบายความร้อน ซึ่งจุดเดือดของน้ำยาหล่อเย็นจะอยู่ที่ 120 องศเซียลเซสขึ้นไป ส่งผลให้น้ำในระบบระบายความร้อนเดือดช้าลง ระบบหล่อเย็นถ่ายเทความร้อนได้รวดเร็วขึ้น ต่างจากน้ำเปล่าที่มีจุดเดือดอยู่ที่ 100 องศเซียลเซส
- ป้องกันการกัดกร่อนและสนิม
ในน้ำยาหล่อเย็น ยังมีสารเติมแต่งที่ช่วยป้องกันการกัดกร่อนของชิ้นส่วนต่างๆในระบบหล่อเย็น เช่น ปั้มน้ำ วาลว์น้ำ ออยคูลเลอร์ หม้อน้ำและแผงระบายความร้อนภายใน ท่อยาง ท่อทางเดินต่างๆของน้ำที่ทำจากโลหะ ปลอกสูบ เสื้อสูบรวมทั้งฝาสูบ ซึ่งในกรณีของน้ำเปล่า นอกจากจะไม่ได้ช่วยป้องกันการกัดกร่อนแล้ว ยังเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ชิ้นส่วนต่างๆ เกิดสนิมและการผุกร่อนอย่างรวดเร็ว จนทำให้ระบบระบายความร้อนส่วนต่างๆ ทำงานผิดพลาด และอาจทำให้เครื่องยนต์พังเสียหายตามมา
- ป้องกันการเกิดคราบตะกรัน
น้ำยาหล่อเย็นที่ดีและมีคุณภาพ ยังช่วยป้องกันการเกิตะกรันภายในหม้อน้ำ โดยเฉพาะบริเวณแผงระบายความร้อนในหม้อน้ำ หรือรังผึ้งหม้อน้ำ สาเหตุของการเกิดตระกรัน เกิดจากการเติมน้ำเปล่าลงในหม้อน้ำนั่นเอง ซึ่งในน้ำมักจะมีแร่ธาตุ แคลเซียม และแมกนีเซียม ปนอยู่ในปริมาณมาก เมื่อเติมลงไปในหม้อน้ำ จะเกิดหินปูน แคลเซียมคาร์บอเนต และแมกนีเซียมคาร์บอเนต ก่อตัวเป็นคราบตระกรันขึ้น และขัดขวางทางเดินของน้ำในแผงระบายความร้อนในรังผึ้ง ทำให้หม้อน้ำเกิดการอุดตัน ระบายความร้อนได้น้อย เมื่อความร้อนสูงขึ้นมาก ลูกสูบจะเกิดการขยายตัว เสียดสีกับผนังสูบอย่างรุนแรง เกิดการไหม้ ลูกสูบติด ส่งผลให้ฝาสูบโก่ง จนเป็นเหตุทำให้เครื่องยนต์พังเสียหาย
credit:autodeal
- ป้องกันการเกิดฟอง (Antifoam)
น้ำยาหล่อเย็นจะมีสารป้องกันการเกิดฟอง (Antifoam) ช่วยลดหรือกำจัดฟองอากาศที่เกิดขึ้น ไม่ให้ไปรบกวนการระบายความร้อน ทำให้การระบายความร้อนเต็มประสิทธิภาพ รวมทั้งช่วยยืดอายุชิ้นส่วนของส่วนประกอบต่างๆ ของระบบหล่อเย็นได้อีกด้วย
- ป้องกันการแข็งตัว ในสภาวะอุณหภูมิติดลบ
สำหรับประเทศในเขตหนาว ซึ่งมีอุณหภฺมิต่ำกว่า 0 องศาเซียลเซส น้ำยาหล่อเย็นจะมีคุณสมบัติ ป้องกันการแข็งตัว (Antifreeze) คือสารจำพวก เอทธิลีนไกลคอล (Ethylene Glycol) ซึ่งช่วยให้น้ำยาหล่อเย็นคงสภาพเป็นของเหลว สามารถไหลเวียน และระบายความร้อนของเครื่องยนต์ได้ ถึงแม้จะมีอุณหภูมิจะต่ำกว่าจุดเยือกแข็งก็ตาม
- ช่วยหาจุดรั่วไหลของหม้อน้ำได้ง่าย
น้ำยาหล่อเย็นส่วนใหญ่ จะมีสีสันที่ถูกผสมลงไป เช่น เขียว แดง เหลือง เพื่อให้ช่างหรือผู้ใช้ สามารถตรวจสอบจุดรั่วไหลของหม้อน้ำได้ง่าย สีของน้ำยาหล่อเย็น ไม่ได้เป็นตัวบ่งบอกถึงคุณภาพ แต่เป็นเพียงตัวช่วยชี้จุดรั่วไหลของหม้อนน้ำได้ และช่วยให้เราสามารถสังเกตุระดับของน้ำยาหล่อเย็นในถังพักน้ำได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
อย่าเข้าใจผิดคิดว่า เติมน้ำยาหล่อเย็นแล้วแล้ว หม้อน้ำจะไม่ร้อน ความจริงคือมันยังคงร้อนเหมือนเดิม เพียงแต่จุดเดือดของน้ำจะสูงขึ้น อุณหภูมิของน้ำจะคงที่กว่า ทำให้ลดแรงดันของหม้อน้ำได้ดีกว่าน้ำเปล่า ที่สำคัญ ควรเลือกน้ำยาหล่อเย็นที่มีคุณภาพ เช่น และไม่ควรใช้น้ำเปล่าเติมลงในหม้อน้ำ