เมื่อคุณต้องดูแลรถที่ขับใช้อยู่ทุกๆ วัน เรารู้กันดีแล้วว่าควรจะเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง แต่ส่วนใหญ่มักจะมองข้าม น้ำมันเกียร์ ซึ่งก็มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน น้ำมันเกียร์ที่ดีจะช่วยถนอมเกียร์ให้สามารถใช้งานได้ยาวนานไม่สึกหรอ แต่ถ้าฝืนใช้น้ำมันเกียร์เก่าๆ ไปเรื่อยๆ ย่อมไม่ส่งผลดีต่อระบบเกียร์แน่ๆ สิ่งที่ต้องรู้เกี่ยวกับน้ำมันเกียร์ มีดังต่อไปนี้
การสังเกต น้ำมันเกียร์
น้ำมันเกียร์ที่ดีควรมีลักษณะอย่างไร สังเกตง่ายๆ
- สังเกตสีของน้ำมันเกียร์ ต้องเป็นสีใส ไม่ขุ่น เช่น สีแดง ไม่ควรเป็นสีชมพู
- ลักษณะของน้ำมันเกียร์ ต้องสะอาด ไม่เป็นฟอง ไม่มีเศษโลหะปะปนอยู่ ถ้าเป็นแบบนี้แสดงว่าน้ำมันเกียร์ไม่สะอาดและเริ่มเสื่อมสภาพ
- น้ำมันเกียร์เช็ดออกง่าย เมื่อเราดึงก้านวัดระดับน้ำมันเกียร์และเช็ดน้ำมันเกียร์ออก ต้องเช็ดออกง่าย ถ้ามีคราบที่เช็ดออกยาก อาจเป็นสัญญาณแจ้งเตือนว่าระบบเกียร์มีปัญหา
- น้ำมันเกียร์ต้องไม่มีกลิ่นไหม้ และไม่มีสีคล้ำ หรือสีกาแฟ ถ้าเป็นแบบนี้อาจเกิดจากการไหม้ หรือภายในระบบมีความร้อนสูง
ระดับของน้ำมันเกียร์
ระดับของน้ำมันเกียร์ ตรวจเช็คง่ายๆ จากก้านวัดระดับน้ำมันเกียร์ ซึ่งควรอยู่ในระดับที่พอดี ไม่มากเกินไปหรือน้อยเกินไป
- ระดับที่มากเกินไป จะทำให้เกิดฟอง อาจทำให้เกิดการรั่วซึม และยังส่งผลให้การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ไม่สามารถเปลี่ยนถ่ายได้มากเป็นปกติ มีน้ำมันเก่าตกค้างอยู่มาก
- ระดับที่น้อยเกินไป อาจเกิดจากรอยรั่ว มีการรั่วซึมในจุดต่างๆ ของน้ำมันเกียร์ ต้องหาสาเหตุว่ารั่วจากจุดใด หรือลดลงเพราะอะไร และรีบแก้ไข
การเติมน้ำมันเกียร์
ถ้าน้ำมันเกียร์พร่องไปเล็กน้อย แล้วต้องเติมน้ำมันเกียร์ ควรใช้น้ำมันเกียร์เกรดเดียวกัน และสเปคถูกต้อง และเติมให้อยู่ในระดับพอดี และหากน้ำมันเกียร์ถูกใช้งานมาเป็นเวลานาน ควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ ดีกว่าเติมไปเรื่อยๆ โดยมีน้ำมันเก่าค้างอยู่ เพราะจะได้น้ำมันที่ใหม่และสะอาดทั้งระบบ
ก่อนเช็คน้ำมันเกียร์ มั่นใจว่าทำสิ่งเหล่านี้
- รถจอดอยู่ในแนวราบ ไม่ลาดเอียง เพราะจะทำให้การวัดระดับผิดพลาด
- เครื่องยนต์และเกียร์ควรจะอยู่ในอุณหภูมิปกติ เหมาะสมไม่ร้อนหรือเย็นจนเกินไป
- ดึงเบรกมือทุกครั้ง และเกียร์ควรอยู่ในตำแหน่ง N หรือเกียร์ว่าง เพื่อความปลอดภัย
รู้เรื่องเกียร์กันแล้ว อย่าลืมเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ตามระยะ เพื่อให้ได้น้ำมันเกียร์ที่สะอาดและมีประสิทธิภาพสำหรับเกียร์รถของคุณ