การดูแลรักษาเครื่องยนต์ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าน้ำมันเครื่องคือส่วนสำคัญที่ช่วยให้การขับเคลื่อนมีประสิทธิภาพ หากน้ำมันเครื่องดีและใสสะอาด ย่อมส่งผลดีต่อเครื่องยนต์ แต่หากน้ำมันเครื่องเริ่มสกปรก มีเศษโลหะจากการสึกหรอของชิ้นส่วนเครื่องยนต์มากขึ้น สิ่งสกปรกเหล่านี้ก็จะหมุนเวียนเข้าไปติดอยู่ในเครื่องยนต์ ทำให้เครื่องยนต์ไม่สะอาดไปกันใหญ่ หรือน้ำมันเครื่องเริ่มลดลงก็ควรเติมให้ได้ระดับที่ต้องการ เรามาดู วิธีวัดระดับน้ำมันเครื่อง เรื่องง่ายๆ ที่ผู้หญิงก็ทำได้
วิธีวัดระดับน้ำมันเครื่อง วัดอย่างไร
- จอดรถไว้ในแนวราบ ไม่จอดในที่ลาดเอียง จะทำให้การวัดระดับคลาดเคลื่อน
- หากจอดรถอยู่ ให้ติดเครื่องไว้ประมาณ 3-5 นาที เพื่อให้น้ำมันไหลเวียนในระบบ และทำให้เรารู้ระดับน้ำมันในขณะที่รถกำลังทำงานจริง หากขับรถอยู่และเพิ่งดับเครื่อง ต้องรอสักพักให้น้ำมันเครื่องไหลลงมาในอ่างน้ำมันให้หมดแล้วค่อยวัด
- เปิดฝากระโปรงรถออก มองหาเหล็กวัดระดับน้ำมันเครื่อง แล้วค่อยดึงเอาเหล็กวัดระดับน้ำมันเครื่องขึ้นมาดู
- ดึงก้านครั้งที่ 1 นำผ้ามาเช็ดออกก่อนแล้วจุ่มลงไปใหม่
- ดึงก้านครั้งที่ 2 ดูระดับน้ำมัน ว่าอยู่ระดับไหน
- ดึงก้านครั้งที่ 3 เป็นการตรวจสอบเพื่อความแน่ใจว่าระดับน้ำมันอยู่ในระดับนั้นจริง
- ระดับน้ำมันที่ถูกต้อง ควรอยู่ระหว่างขีด Min หรือ L และขีด Max หรือ F หากสูงกว่านั้นแสดงว่าน้ำมันเครื่องเกิน หรือหากไม่ได้เติมมาก่อนหน้านี้อาจมีน้ำผสมอยู่จนเกินปริมาณที่จำเป็น หากอยู่ต่ำกว่าขีด Min แสดงว่าระดับน้ำมันเครื่องลดลง ควรเติมเข้าไปเพิ่มให้พอดี
- นอกจากวัดระดับน้ำมันเครื่องแล้ว สิ่งที่ต้องดูคือ ความหนืดของน้ำมัน และสีของน้ำมัน ว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ หากน้ำมันเครื่องที่มีสีเข้มขึ้น แสดงว่าในน้ำมันเครื่องมีเขม่าปนเปื้อนมาก ถึงเวลาต้องเปลี่ยนถ่าย หากมีความหนืดน้อยลงจากเดิม แสดงว่าน้ำมันเสื่อมสภาพ อาจหล่อลื่นได้ไม่ดีดังเดิม หากปล่อยทิ้งไว้นานจะทำให้เครื่องยนต์สึกหรอเร็ว ควรต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเช่นกัน และทางที่ดีควรเช็คกรองน้ำมันเครื่องไปพร้อมๆ กัน หากสกปรกมากก็เปลี่ยนกรองไปพร้อมกันเลย