ขับรถอย่าปล่อยให้รถร้อน ไม่ว่าจะเป็นภายในห้องโดยสาร หรือในระบบเครื่องยนต์กลไก ถ้าละเลยไม่ดูแล ก็อาจทำให้รถพังเร็วก่อนเวลา แนะนำวิธีง่ายๆ ในการ ลดความร้อนให้กับรถ รถไม่ร้อนก็ขับสบายใจ หายห่วง
ลดความร้อนให้กับรถ ฟิล์มกรองแสงช่วยได้
สำหรับรถบางคันที่ไม่เคยติดตั้งฟิล์มกรองแสงมาเลย รถจะรับความร้อนมาเต็มๆ ทำให้อุณหภูมิภายในรถร้อนกว่าปกติ ทางที่ดีควรหาเวลาไปติดฟิล์มกรองแสงไว้ก่อน จะช่วยลดความร้อนที่ผ่านเข้ามาในรถได้มาก ทั้งนี้อย่าลืมดูว่าควรติดฟิล์มกรองแสงที่กี่เปอร์เซ็นต์ถึงจะพอดี และไม่บดบังทัศนวิสัยในการขับขี่ อย่าติดฟิล์มดำเกินไปจนเวลากลางคืนมองไม่เห็นทาง และควรติดฟิล์มที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน จะติดแน่นทนทานและกรองแสงได้ดีกว่า ไม่หลุดลอกร่อนง่าย
ไม่ควรจอดรถตากแดด
สำหรับรถที่จอดอยู่ในบ้าน ควรมีโรงจอดรถหรือที่จอดรถที่มีหลังคา จะช่วยถนอมดูแลรถได้ดีกว่า แต่หากไม่มีพื้นที่และหาที่จอดไม่ได้ อย่างน้อยก็ควรจอดในร่มและมีผ้าคลุมรถเอาไว้สักหน่อย หลีกเลี่ยงการจอดรถตากแดด นอกจากจะทำให้รถร้อน ก็ยังทำให้รถสีซีดเร็ว ชิ้นส่วนภายในรถอาจกรอบแตกหักได้ง่าย โดยเฉพาะรถยุโรปที่ไม่ได้ออกแบบมาสำหรับบ้านเราที่มีอากาศร้อน พวกลิ้นช้ก มือจับประตู หรืออะไรที่เป็นพลาสติก จะกรอบเร็วมาก
ระบายความร้อนหลังจอดตากแดด
หากรถมีความจำเป็นต้องจอดตากแดดจริงๆ แล้วเราจะขับรถออกไป ก่อนอื่นก็ต้องระบายความร้อนภายในรถโดยการ เปิดกระจกหน้าต่างฝั่งตรงข้าม 1 บาน แล้วเปิดประตูอีกด้าน ปิด-เปิด ไปมาเพื่อเป็นการพัดพาเอาอากาศร้อนออกไปทางหน้าต่าง ทำแบบนี้จะทำให้อุณหภูมิภายในรถลดลงได้หลายองศาเลยทีเดียว
แอร์รถยนต์ก็สำคัญ
ขับรถก็ต้องเปิดแอร์รถยนต์ตลอดเวลาอยู่แล้ว ดังนั้นควรถนอมแอร์ด้วยการไม่เปิดกระจกทิ้งไว้ขณะเปิดแอร์ จะทำให้แอร์ทำงานมากกว่าปกติ หากต้องเปิดกระจกหรือประตูรถก็เปิดแค่พัดลมก็พอ และควรหมั่นล้างแอร์ตามระยะ ประมาณ 20,000 กิโลเมตรต่อครั้ง และสังเกตอาการ หากแอร์ไม่เย็นหรือเย็นจัดจนมีไอขึ้น แอร์อาจมีปัญหา ต้องรีบหากสาเหตุและแก้ไขอาการ
อย่าปล่อยให้รถร้อนจนโอเวอร์ฮีท
หมั่นสังเกตอาการรถ ว่ารถร้อนหรือไม่ เช่น เข็มความร้อนชี้หนักไปทางด้านขวา แสดงว่ารถร้อนหรือเปล่า ควรเติมน้ำยาหล่อเย็นแทนการเติมเพียงน้ำเปล่าลงในหม้อน้ำ เพราะน้ำยาหล่อเย็นจะช่วยควบคุมอุณหภูมิของน้ำในหม้อน้ำได้ดีกว่า ทำให้รถไม่ร้อนเร็ว อีกทั้งยังไม่เกิดตะกรันหรือสนิม ที่มักเกิดปัญหากับรถที่เติมเพียงน้ำเปล่าอีกด้วย