ยางรถยนต์ มีความสำคัญไม่แพ้กับส่วนอื่นๆ ของรถ เพราะมีส่วนช่วยในการขับเคลื่อนรถไปข้างหน้า และยึดเกาะถนนได้ดี ยิ่งช่วงเวลาที่ฝนตกถนนลื่นๆ ยางรถยนต์ดีๆ สำคัญมาก ดอกยางรถยนต์ ก็สำคัญเช่นกัน ควรเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งาน แนะนำวิธีดูดอกยางรถยนต์ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไรและมีอะไรที่ควรต้องพิจารณา
รูปแบบของดอกยาง แบ่งตามทิศทาง
ดอกยางแบบ 2 ทิศทาง (Non-Directional)
ดอกยางประเภทนี้ จะมีลักษณะเป็นดอกยางสวนทางกัน สามารถใส่ได้ทุกล้อไม่ว่าจะล้อหน้าล้อหลัง จึงเปลี่ยนสลับยางได้ง่าย และยางประเภทนี้จะเน้นการขับขี่แบบปกติสบายๆ ไม่เหมาะกับคนขับรถเร็ว
ดอกยางแบบทิศทางเดียว (Directional)
ดอกยางประเภทนี้ จะมีลักษณะไปในทิศทางเดียวกัน และจะมีสัญลักษณ์ลูกศร (Rotation) แสดงไว้ตรงแก้มยาง เพื่อเป็นการบอกตำแหน่งของทิศทางของการหมุนของล้อ โดยต้องใส่ให้ถูกทาง โดยดอกยางทิศทางเดียวจะมีข้อดีคือสามารถรีดน้ำออกไปได้ดีกว่าแบบแรก จึงสามารถควบคุมการขับขี่ได้ง่าย และสามารถใช้ความเร็วสูงได้อย่างมั่นใจ
ดอกยางแบบไม่สมมาตรกัน (Asymmetric)
ดอกยางประเภทนี้ ลายดอกยางด้านในและด้านนอกจะมีความแตกต่างกัน เป็นการออกแบบมาเพื่อให้ยางรถยนต์สามารถใช้งานได้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งการขับขี่ทางตรง และการขับขี่ที่ต้องใช้ความเร็วสูง โดยหน้ายางด้านนอกจะทำหน้าที่ยึดเกาะถนนบนทางโค้งได้ดี เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่ที่มีถนนคดเคี้ยวมากๆ หรือการขับรถเร็วจะยึดเกาะได้ดี แต่ยางประเภทนี้ในบ้านเรายังไม่ได้เป็นที่นิยมมากนัก
เลือกยางให้เหมาะกับรถคุณ
นอกจากดูเรื่องทิศทางของดอกยาง ก็มาดูความถี่ห่างของดอกยาง เพื่อเลือกใช้ให้เหมาะสมกับรถและการใช้งาน
ยางที่มีดอกถี่ๆ และเรียบ
เป็นดอกยางที่เหมาะสมกับรถที่ใช้งานทั่วไป มีไลฟ์สไตล์การขับขี่แบบปกติ เช่น ขับไปทำงาน หรือขับอยู่ในเมือง ออกต่างจังหวัดหรือเดินทางไกลบ้าง เป็นต้น โดยดอกยางประเภทนี้จะเน้นความนุ่มเงียบ และใช้กับรถที่ความเร็วไม่สูง
ยางสปอร์ตหรือมีดอกยางห่างและเรียบ
ดอกยางที่มีความห่างและเรียบ จะเหมาะกับการใช้งานที่มีการขับขี่ความเร็วสูง เพื่อให้มีการยึดเกาะถนนได้ดี เข้าโค้งได้แม่นยำ รวมไปถึงเบรกดี และรีดน้ำได้ดี แต่ด้วยความห่างของดอกยางอาจทำให้รถไม่ได้นิ่มเหมือนดอกถี่ เสียงจะไม่เงียบเท่าแบบแรก
เลือกดอกยางรถยนต์ให้เหมาะสมได้แล้ว ก็อย่าลืมดูแลรถยนต์ในส่วนอื่นๆ เพื่อให้รถสามารถใช้งานได้ดีมีประสิทธิภาพ