รถยนต์ก็เหมือนคน ที่ต้องการการดูแล เพราะถ้าหากละเลยไม่ดูแลเอาใจใส่ รถสุดที่รักก็งอแงเอาได้ง่ายๆ เหมือนกัน ดังนั้น เพื่อเป็นการดูแลรักษารถยนต์ให้ใช้งานได้ดีเหมือนใหม่ เรามาดู เคล็ดลับดูแลรถยนต์ ควรดูแลตรงไหน อย่างไรบ้าง
เคล็ดลับดูแแลรถยนต์ หมั่นดูแลหม้อน้ำ
หม้อน้ำเป็นส่วนสำคัญในระบบระบายความร้อน หากรถระบายความร้อนได้ไม่ดี ความร้อนขึ้นจะเป็นเรื่องใหญ่ ควรหมั่นเช็คดูน้ำในหม้อน้ำว่าอยู่ในระดับที่ปกติ เช็คดูว่าหม้อน้ำไม่รั่ว ท่อยางหม้อน้ำไม่อ่อนหรือแข็งจนเกินไปจนอาจทำให้เกิดการรั่วไหล และที่สำคัญควรเติมน้ำยาหล่อเย็นแทนการเติมน้ำเปล่า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลรถยนต์ที่ไม่เพียงแต่ช่วยในเรื่องการระบายความร้อนเท่านั้น น้ำยาหล่อเย็นยังช่วยกันสนิม ป้องกันไม่ให้เกิดคราบตะกรัน และป้องกันการเกิดฟองที่เกิดขึ้นภายในหม้อน้ำอีกด้วย
เช็คแบตเตอรี่
หากรถที่ใช้งานนานๆ แบตเตอรี่ที่มีอายุมากกว่า 1 ปี ควรต้องหมั่นเช็คแบตเตอรี่ ว่าระดับน้ำกลั่นอยู่ในระดับพอดี หากต้องเติมน้ำในแบตเตอรี่ต้องเป็นน้ำกลั่นเท่านั้น ไม่อย่างนั้นจะทำให้แบตเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ เช็คขั้วแบตเตอรี่ยังอยู่ดีไม่หลุดออกจากขั้ว ไม่มีคราบขี้เกลือติดอยู่ หากมีขี้เกลือแสดงว่าแบตเตอรี่เริ่มเสื่อม หรืออาจเป็นไปได้ว่าขั้วแบตหลวม สายแบตเสื่อมก็ได้เช่นกัน โดยอาการแบตเสื่อมดูง่ายๆ คือรถเริ่มสตาร์ทไม่ติดหรือสตาร์ทติดยาก ไฟส่องสว่างหรี่ลงกว่าเดิม
น้ำมันเครื่องอย่าปล่อยให้แห้ง
บางคนขับรถไม่เคยดูน้ำมันเครื่องเลย กว่าจะดูอีกทีน้ำมันเครื่องแห้งซะแล้ว ซึ่งถ้าน้ำมันเครื่องมีประมาณที่ต่ำกว่าระดับปกติ จะทำให้น้ำมันเครื่องไปไหลเวียนหล่อลื่นในระบบไม่เต็มที่ อาจเป็นเหตุให้เกิดการกัดกร่อนสึกหรอของชิ้นส่วนภายใน และน้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพ ประสิทธิภาพในการทำงานเพื่อดูแลเครื่องยนต์ก็ลดน้อยลงไป ทางที่ดีควรหมั่นเช็คน้ำมันเครื่อง โดยดูจากก้านวัดระดับน้ำม้นเครื่องว่ายังอยู่ในระดับปกติหรือไม่ และอย่าลืมเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องเมื่อถึงเวลา
เปลี่ยนสายพานรถยนต์เมื่อครบกำหนด
เช็คดูให้ดีว่ารถของคุณมีสายพานอยู่หรือเปล่า? ถ้ามี จะต้องเปลี่ยนสายพานที่ระยะเท่าไหร่ ซึ่งสามารถดูได้จากคู่มือรถ หรือเปลี่ยนที่ระยะ 50,000 กม. หรือประมาณ 2-3 ปีเปลี่ยนครั้ง อย่าปล่อยให้สายพานขาดเป็นอันขาด เพราะอาจจะงานเข้าต้องได้ซ่อมแซมรถมากกว่าซื้อสายพานใหม่เสียอีก
เปลี่ยนไส้กรองอากาศ
ไส้กรองอากาศ ก็เป็นตัวที่จะช่วยดักกรองสิ่งสกปรกในอากาศก่อนเข้าสู่รถ หากเปรียบกับคนก็เหมือนเป็นจมูกที่ดักจับฝุ่นละอองก่อนที่เราจะสูดเอาอากาศเข้าไป ดังนั้น หากกรองอากาศใช้งานมานานจนดำสกปรก ความสามารถในการกรองอากาศก็ลดลง หรือกรองตันได้ และรถได้รับอากาศที่ไม่สะอาดบริสุทธิ์เข้าไปได้มากขึ้น เป็นเหตุให้น้ำมันเครื่องไม่สะอาด รถเร่งไม่ขึ้น ดังนั้น หากไส้กรองอากาศไม่สกปรกมากสามารถเป่าทำความสะอาดได้ ช่วยได้ในระยะหนึ่ง แต่ทางที่ดีควรเปลี่ยนไส้กรองอากาศใหม่ เพื่อให้ได้อากาศดีเข้าสู่รถคุณ
เช็คระบบเบรก เปลี่ยนน้ำมันเบรก
ระบบเบรกก็สำคัญ เมื่อรถใช้งานไปนานๆ ระบบเบรกอาจมีประสิทธิภาพเสื่อมถอยลง เช่น เบรกลึก เบรกไม่ค่อยอยู่ อาจเป็นได้หลายอย่าง ทั้ง จานเบรกที่ควรต้องเปลี่ยน น้ำมันเบรกก็เช่นกัน อย่าดันทุรังใช้ไปเรื่อยๆ ไม่ยอมเปลี่ยนสักที เพราะความปลอดภัยในชีวิตสำคัญกว่า ถ้าเบรกไม่อยู่เกิดอุบัติเหตุขึ้นมาไม่คุ้มแน่นอน
หัวเทียนบอดหรือเปล่า
เช็คอาการหัวเทียนบอดเบื้องต้น โดยจะมีอาการดังต่อไปนี้ เครื่องยนต์สะดุด เร่งเครื่องไม่ขึ้น มีอาการสั่นๆ รถกินน้ำมัน เป็นต้น ก่อนจะดูหัวเทียนดูรถของเราด้วยนะว่าเป็นเครื่องยนต์ดีเซลหรือเบนซิน ถ้าเป็นดีเซลไม่มีหัวเทียนอยู่แล้ว แต่เบนซินจะใช้หัวเทียนในการจุดระเบิด หากมีอาการดังที่กล่าวข้างต้นลองถอดหัวเทียนออกมาเช็ค หรือขัดด้วยกระดาษทรายดูก่อน หากอาการยังไม่ดีขึ้นควรเปลี่ยนหัวเทียน
พวงมาลัยใช้งานได้ดีปกติ
คนขับรถอยู่ ทุกวันจะเข้าใจรถของตัวเอง ว่าใช้แรงหมุนเท่าไหร่ ถ้าพวงมาลัยหนักหมุนไม่ค่อยไป ต้องเติมน้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์หรือเปล่า หรือเกิดจากกลไกภายใน อีกทั้งลองขับปล่อยมือบนเส้นตรงเพื่อเช็คดูว่ารถกินซ้ายกินขวามั้ย ถ้ารถเอนไปทางใดทางหนึ่ง อาจตั้งศูนย์ไม่ตรง ลองไปตั้งศูนย์ดูใหม่
หมั่นเอาใจรถยนต์กันให้ดีๆ ดูแลบำรุงรักษาอยู่เสมอ เพื่อจะได้ใช้งานได้ดีเหมือนใหม่ไปอีกยาวนาน