แอร์รถยนต์ เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการขับรถ เพราะคงไม่มีใครอยากขับรถทั้งที่แอร์ร้อนๆ หรือต้องเปิดกระจกรถตลอดเวลาอยู่แล้ว ยิ่งต้องเดินทางไกลกับแดดร้อนๆ ของเมืองไทย แอร์รถยนต์จึงสำคัญมาก นอกจากเรื่องการทำความเย็น ก็ยังช่วยหมุนเวียนอากาศภายในรถยนต์อีกด้วย แต่ถ้าหาก แอร์รถไม่เย็น จะมีสาเหตุมาจากอะไรได้บ้าง?
การสังเกตอาการแอร์เสีย
- เปิดแอร์รถยนต์แล้วมีเสียงดังหึ่งๆ
- แอร์รถไม่เย็น ร้อนผิดปกติ
- ลมแอร์เป่าออกมาเป็นลมร้อน
แอร์รถไม่เย็น เกิดจาก
– น้ำยาแอร์หมด
ถ้าหากเปิดแอร์รถยนต์แล้วรู้สึกว่าแอร์ไม่เย็นฉ่ำเหมือนแต่ก่อน หรือความเย็นน้อยกว่าปกติทั้งๆ ที่ก็เปิดอุณภูมิปกติเหมือนทุกครั้ง เป็นไปได้ว่าน้ำยาแอร์หมด ควรหาโอกาสไปเติมน้ำยาแอร์
– แผงคอยล์ร้อน
แผงคอยล์แอร์ร้อน สังเกตได้จากตอนขับรถ หากตอนที่รถติดหรือจอดรถอยู่แล้วแอร์ร้อนกว่าตอนที่รถเคลื่อนที่ หรือช่องแอร์มีเสียงดัง อาจจะต้องเปลี่ยนแผงคอยล์แอร์ ซึ่งจะมีอยู่ 2 ประเภทคือ แผงคอยล์เย็น และแผงคอยล์ร้อน อาจจะต้องให้ช่างเช็คดูว่าเกิดจากแผงคอยล์ส่วนไหน เพื่อทำการเปลี่ยนให้ถูกต้อง
– น้ำยาแอร์รั่ว
อีกสาเหตุที่อาจเป็นไปได้ คือ น้ำยาแอร์รั่ว ซึ่งส่วนใหญ่จะรั่วที่ข้อต่อของตู้แอร์ แผงตู้แอร์รั่ว ท่อน้ำยาแอร์ขาด อาจมาจากความเสื่อมสภาพตามอายุการใช้งาน หรือจากที่มีเศษหินกระเด็นไปโดน
– ดรายเออร์ และ วาล์วแอร์อุดตัน
อาการวาล์วแอร์ และดรายเอร์แอร์อุดตัน มีสาเหตุมาจาก น้ำยาแอร์เข้าผ่านแผงคอยลได้ไม่เต็มที่ ทำให้ตัวดูดจับความร้อนไม่มีประสิทธิภาพ อุณหภูมิในรถจึงไม่ค่อยเย็น และอาจมีเสียงดังมาจากตู้แอร์ร่วมด้วย ซึ่งทั้งสองชิ้นนี้ทำงานควบคู่กัน ถ้าเกิดจากสาเหตุนี้ควรต้องเปลี่ยนทั้งคู่
– ปัญหาคลัตซ์ลื่น
อาการคลัตช์ลื่น เกิดจากกระแสไปที่คลัตซ์ส่งเข้าไปหาตัวแม่เหล็กน้อยเกินไป ทำให้ไม่เพียงพอที่จะทำให้คลัตซ์คอมเพรสเซอร์ติดเข้ากับมูลเลย์ได้ พอการทำงานของคอมเพรสเซอร์มีไม่เพียงพอ แอร์อาจจะเย็นไม่สม่ำเสมอ เย็นบ้างไม่เย็นบ้าง หากเป็นที่ปัญหานี้ต้องเตรียมงบในกาซ่อมแซมมากหน่อย
ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดก็คงไม่มีใครอยากให้เกิดทั้งสิ้น อย่างน้อยเวลาขับขี่ควรหมั่นสังเกตอาการ เพื่อที่จะได้แก้ไขได้ก่อนปัญหาลามไปใหญ่โต