เป็นที่ใฝ่ฝันสำหรับหนุ่มๆหลายคน ในการที่จะมีรถเท่ๆ ขับสักคัน ไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อ หรือรุ่นอะไรก็ตาม หนึ่งในนั้นต้องมี นิสสัน จีทีอาร์ (Nissan GTR) อยู่อย่างแน่นอน ด้วยรูปแบบความสวยงามของตัวรถ รวมถึงสมรรถนะที่มีความเร็วสูง อีกทั้งยังเป็นรุ่นที่พระเอกในหนังแข่งรถชื่อดังเลือกใช้ ยิ่งทำให้เป็นที่ต้องการมากขึ้น คุณรู้หรือไม่ว่าเจ้า นิสสันจีทีอาร์ (Nissan GTR) มีเรื่องราวความลับซ่อนอยู่ กว่าที่จะออกมาเป็นรถหนึ่งคัน ถ้าอยากรู้ว่า ความลับ นิสสัน จีทีอาร์ (Nissan GTR) ว่ามีอะไรซ่อนอยู่บ้าง ตามน้องยูคอนมาเลย
เคยเป็นรถยนต์ 4 ที่นั่ง เร็วที่สุดในโลก
ในปี 2009 นิสสัน จีทีอาร์รุ่นแรก ก็ได้จารึกสถิติลงใน กินเนส เวิร์ด เรคคอร์ด (Guinness World Records) อย่างเป็นทางการ ในฐานะรถยนต์ 4 ที่นั่ง ที่เร็วที่สุดในโลก โดยมีอัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 ภายในเวลาเพียง 3.5 วินาที แต่หลังจากไมเนอร์เชนจ์ในปี 2011 นิสสัน จีทีอาร์ ก็ยังสามารถทำความเร็วได้ไวกว่าเดิม โดยมีอัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 ใช้เวลาเพียง 2.8 วินาทีเท่านั้น ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับปรุงระบบไอเสียและจูนแมปปิงเครื่องยนต์ใหม่ แต่ในปัจจุบัน สถิตินี้ได้ถูกลบไปแล้ว โดยเฟอร์รารี่ เอฟ12 เบอร์ลิเนตต้า (Ferrari F12 berlinetta)
เท่านั้นยังไม่พอ ในปี 2012 นิสสัน จีทีอาร์ ยังทำเวลาเพียง 7 นาที 18 วินาที ในสนามสุดโหดอย่าง นูวเบิร์กริง (Nurburgring) ที่ประเทศเยอรมณี ซึ่งเร็วกว่า แลมโบกินี อเวนธาดอร์ (Lamborghini Aventador LP700-4) ซึ่งทำเวลาอยู่ที่ 7 นาที 25 วินาทีอีกด้วย
ได้แรงบันดาลใจมาจาก หุ่นยนต์กันดั้ม(GUNDAM)
ชิโระ นาคามูระ (Shiro Nakamura) หัวหน้าผู้ออกแบบกล่าวว่า การออกแบบเจ้าจีทีอาร์ ได้แรงบันดาลใจมาจากตัวละครในการ์ตูนหุ่นยนต์กันดั้ม เพราะเหตุนี้ จีทีอาร์ จึงมีความแตกต่างอย่างมีเอกลักษณ์ ด้วยรูปแบบที่มีแต่เหลี่ยมมุม ต่างจากค่ายอื่นที่มีความโค้งเว้า
นิสสัน จีทีอาร์ (Nissan GTR) คือ ก็อตซิลล่า เพศผู้
ชิโระ นาคามูระ (Shiro Nakamura) ได้บอกความจริงเกี่ยวกับจีทีอาร์ ว่าเป็น เจ้าก็อตซิลล่า ที่ถูกออกแบบมาให้เป็น เพศผู้ โดยโป่งหลังของจีทีอาร์ เปรียบเสมือน มัดกล้ามของผู้ชาย เพราะฉะนั้น จีทีอาร์จึงไม่ใช่รถที่ สวย แต่มันในเป็นรถที่ หล่อ
ทำไมถึงได้ฉายา ก็อตซิลล่า (Godzilla)?
ด้วยเทคโนโลยีและสมรรถนะที่ดีเยี่ยมของรถ R32 Skyline GT-R ทำให้สามารถคว้าแชมป์ได้อย่างต่อเนื่องในรายการ Australian Touring Car Championship ซึ่งล้มแชมป์หลายสมัย อย่าง Ford Sierra ลงได้ ทำให้สื่อด้านยานยนต์ของออสเตรเลีย ตีพิมพ์ชื่อเล่นของ GT-R ว่า “Godzilla” ในฉบับของเดือนกรกฏาคม ปี 1989 นั่นจึงเป็นที่มาของ ฉายา ก็อตซิลล่า (Godzilla) นั่นเอง
credit : thailandsupercars
นิสสัน จีทีอาร์ (Nissan GTR) มีค่า Cd เท่ากับ BMW i8
BMW i8 เป็นรถสปอร์ต ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในรถที่มี Aero Dynamics ดีที่สุดในทศวรรษ โดยถูกออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์อย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นกันชนหน้า-หลัง กระจกมองข้าง รวมถึงล้อแม็ก แต่รู้หรือไม่ว่า นิสสัน จีทีอาร์ มีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Coefficient of drag) หรือที่เรียกว่า Cd เท่ากับรถสุดล้ำอย่าง BMW i8 (ค่าตัวเลข Cd ยิ่งน้อย ยิ่งดีต่อการลดแรงเสียดทางอากาศ เมื่อขับขี่ด้วยความเร็ว)
ถึงแม้ นิสสัน จีทีอาร์ จะมีรูปร่างค่อนข้างใหญ่โต แต่กลับมี Aero Dynamics ที่ดีมากอย่างน่าไม่น่าเชื่อ โดยมีค่า Cd เพียงแค่ 0.26 เท่านั้น เนื่องจากมีการติดตั้งแอโรพาร์ทไว้รอบคัน รวมไปถึงบริเวณใต้ท้องรถ นอกจากจะช่วยลดแรงต้านอากาศแล้ว แอโรพาร์ทเหล่านี้ยังช่วยสร้าง แรงกด (Downforce) เพื่อเพิ่มแรงยึดเกาะถนน ในขณะเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงอีกด้วย
credit : johsautolife
เครื่องยนต์ถูกประกอบขึ้น ด้วยมือ!
เครื่องยนต์ทวินเทอร์โบ V6 ที่เปรียบเสมือนเป็นหัวใจของ นิสสัน จีทีอาร์ ถูกประกอบขึ้น ด้วยมือ โดยสุดยอดช่างระดับพระกาฬของนิสสัน ที่ถูกเรียกว่า ทาคุมิ (Takumi) ซึ่งถูกฝึกมาเพื่อประกอบเครื่องยนต์โดยเฉพาะ จะมีทั้งหมด 4 คน ได้แก่ ทาคุมิ คุโระซะวะ (Takumi Kurosawa), อิซึมิ ชิโอะยะ (Izumi Shioya), โนบุมิซึ โกะซุ (Nobumitsu Gozu) และซึเนมิ โอะยามะ (Tsunemi Oyama) โดยเครื่องยนต์แต่ละเครื่อง จะมีป้ายชื่อของทาคุมิที่เป็นคนประกอบ แปะเอาไว้อีกด้วย ซึ่งทั้ง 4 คนนี้ มีประสบการณ์รวมกันแล้ว มากกว่า 100ปี!
credit : johsautolife
“นิสสันจีทีอาร์ (Nissan GTR) ไม่ใช่แค่สินค้า ไม่ใช่แค่รถยนต์ แต่มันคือ ความภูมิใจของคนญี่ปุ่นทั้งประเทศ”
credit : johsautolife