ข้อผิดพลาดในการใช้งานระบบไฮดรอลิค

6 ข้อผิดพลาดในการใช้งานระบบไฮดรอลิค ที่พบบ่อย

ระบบไฮดรอลิค เป็นระบบที่มีกลไกในการควบคุมการถ่ายทอดพลังงานของเครื่องจักรกล ที่ขับเคลื่อนด้วยของเหลวซึ่งก็คือน้ำมันไฮดรอลิคนั่นเอง ซึ่งในการใช้งานระบบไฮดรอลิคนั้นก็ควรหมั่นตรวจสอบดูแลอยู่เสมอว่ามีอะไรผิดปกติไปหรือไม่ ซึ่งอาจจะส่งผลเสียตามมาถึงระบบการทำงานต่างๆ ดังนั้นจึงควรรู้ไว้ 6 ข้อต่อไปนี้คือ ข้อผิดพลาดในการใช้งานระบบไฮดรอลิค ที่มักพบบ่อยๆ

1. อย่ายึดการเปลี่ยนน้ำมันไฮดรอลิคตามชั่วโมงการทำงาน

หลายคนใช้วิธีการเปลี่ยนน้ำมันไฮดรอลิคโดยดูจากชั่วโมงการทำงานเท่านั้น ซึ่งไม่ได้เป็นสิ่งที่ดีเสมอไป ซึ่งการเปลี่ยนน้ำมันไฮดรอลิคมีสองปัจจัยหลักก็คือ 
(1) การเสียสภาพของน้ำมันพื้นฐาน  (2) การที่สารเพิ่มคุณภาพหมดไปจากน้ำมันหล่อลื่น

ดังนั้น สิ่งที่ควรคำนึงถึงก็คือ น้ำมันพื้นฐานได้เสียสภาพไปแล้วหรือไม่ หรือสารเพิ่มคุณภาพได้หมดไปแล้วหรือไม่ วิธีที่จะรู้ได้ดีที่สุดคือการส่งตัวอย่างน้ำมันเข้าไปวิเคราะห์ในห้องทดลอง เพื่อลดปริมาณการถ่ายน้ำมันทิ้งโดยไม่จำเป็นหากยังใช้งานได้อยู่ หรืออาจต้องเปลี่ยนน้ำมันไฮดรอลิกเร็วขึ้นหากตรวจพบว่าไม่มีสารสำคัญเหลืออยู่แล้ว

2. อย่ายึดการเปลี่ยนไส้กรองตามชั่วโมงการทำงาน

เหตุผลก็คล้ายๆ กันกับการเปลี่ยนน้ำมันไฮดรอลิค เพราะการเปลี่ยนไส้กรองตามชั่วโมงการทำงานนั้นไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องเสมอไป บางครั้งไส้กรองอาจใช้งานได้ดีอยู่ยังไม่ต้องเปลี่ยน หรือบางครั้งอาจใช้งานจนไส้กรองตันเร็ว น้ำมันไฮดรอลิคอาจมีการปนเปื้อนสิ่งสกปรกหมุนเวียนใช้งานจนไปทำให้ชิ้นส่วนภายในสึกหรอ แบบนี้จะต้องเปลี่ยนเร็วขึ้น ถ้าขืนใช้ต่อไปจนครบชั่วโมงการทำงานอาจไม่ทันการ

วิธีการเช็คก็คือ ดูที่เกจวัดความดันเป็นหลัก แล้วดูความดัน ทั้งก่อนเข้าและหลังเข้าไส้กรอง ว่ามีความดันแตกต่างกัน หรือว่าผิดจากความดันปกติหรือไม่

3. เครื่องจักรร้อนเกินไป

อีกหนึ่งเรื่องของ ข้อผิดพลาดในการใช้งานระบบไฮดรอลิค คือเครื่องจักรร้อนเกินไปจนชิ้นส่วอื่นๆ เสื่อมสภาพ จริงอยู่ว่าระบบไฮดรอลิคสามารถทนการใช้งานในสภาพอุณหภูมิสูงๆ และยังคงสามารถใช้งานได้อยู่ แต่ชิ้นส่วนอื่นๆ ไม่ได้ทนความร้อนได้มากขนาดนั้น โดยเฉพาะซีล สายยาง หรือน้ำมันไฮดรอลิค อาจเสื่อมสภาพเร็ว 

สิ่งที่ช่วยได้ก็คือค่าความหนืดของน้ำมันไฮดรอลิคที่เหมาะสมกับการใช้งานในสภาพความร้อนสูง ที่จะช่วยให้น้ำมันชนิดที่ใช้งานทนต่อความร้อนได้สูงขึ้น และไม่ไปส่งผลกระทบต่อชิ้นส่วนอื่นๆ เป็นการยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ได้อีกด้วย 

4. ใช้น้ำมันไฮดรอลิคผิดประเภท

น้ำมันไฮดรอลิคมีความสำคัญ ไม่เพียงแต่เป็นสารหล่อลื่นเท่านั้น ยังมีหน้าที่เป็นตัวกลางในการส่งถ่ายพลังงานด้วย และด้วยเหตุนี้ ความหนืดของน้ำมันจึงเป็นคุณสมบัติสำคัญที่มีผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานของเครื่องจักร โดยยึดจากอุณหภูมิของสิ่งแวดล้อมขอเครื่องจักรด้วย หากใช้น้ำมันความหนืดสูงเกินไป การหล่อลื่นอาจมีปัญหาในเวลาที่อุณหภูมิเย็นลง แต่ถ้าใช้น้ำมันที่มีความหนืดน้อยเกินไปก็จะไม่สามารถส่งถ่ายพลังงานได้เพียงพอต่อการทำงานได้เช่นกัน

วิธีที่จะทำให้รู้ได้ว่าควรใช้ความหนืดที่เท่าไหร่จึงจะเหมาะสม คือ ตรวจเช็คช่วงอุณหภูมิในการทำงานของเครื่องจักร ว่าอยู่ในช่วงที่อุณหภูมิเท่าไหร่ จึงจะสามารถเลือกใช้น้ำมันไฮดรอลิคตามความหนืดที่เหมาะสมได้ ทั้งนี้ น้ำมันไฮดรอลิคที่มีอยู่ในปัจจุบันจะแสดงรายละเอียดเพื่อให้เราพิจารณาว่าเหมาะสมกับการใช้งานประเภทอะไร เราจึงสามารถเลือกใช้ได้ง่ายขึ้น

5. ติดตั้งกรองน้ำมันผิดตำแหน่ง

กรองน้ำมันก็สำคัญ อย่าคิดว่าติดตั้งเอาไว้ที่ไหนก็ได้ เพราะผลของการทำงานย่อมต่างกัน โดยเฉพาะสองตำแหน่งนี้ที่หากติดตั้งแล้วอาจสร้างความเสียหายให้กับเครื่องจักรมากขึ้น คือ ท่อทางดูดของปั๊มไฮดรอลิค และท่อเดรนของปั๊มแบบลูกสูบ ซึ่งส่วนใหญ่มักติดตั้งผิด

การที่จะให้อายุการใช้งานของปั๊มไฮดรอลิคอยู่นานที่สุด ต้องให้น้ำมันไหลเข้าปั๊มได้อย่างเป็นอิสระ มากกว่าที่จะติดตั้งกรองไว้ใกล้ๆ ทำให้ไหลเวียนได้ไม่ดี และทำให้อายุการใช้งานของเกียร์ปั๊มสั้นลง ซึ่งโดยปกติท่อทางดูดของปั๊มจะสูงกว่าก้นถังประมาณ 2 นิ้ว เศษโลหะขนาดใหญ่จะไม่ถูกดูดขึ้นไปอยู่แล้ว

6. ชิ้นส่วนใหม่ไม่ได้หล่อลื่นไว้ก่อน

ในการเปลี่ยนชิ้นส่วนใหม่ของระบบไฮดรอลิคนั้น หลายคนเริ่มใช้งานหลังจากเปลี่ยนชิ้นส่วนโดยไม่ได้ทำการหล่อลื่นไว้ก่อน ซึ่งหากไม่ได้หล่อลื่นที่ถูกต้องก่อนการใช้งาน ชิ้นส่วนนั้นจะสึกหรอไปมากในช่วงเริ่มต้นก่อนที่จะมีน้ำมันไหลเข้าไปหล่อลื่น ถึงแม้ว่าในช่วงแรกจะใช้งานได้ดีก็ตาม แต่อายุการใช้งานจะสั้นลงอย่างมาก

เข้าใจการทำงานในระบบไฮดรอลิคและการใช้งานที่ถูกต้องกันแล้ว การเปลี่ยนชิ้นส่วนไฮดรอลิคหรือน้ำมันไฮดรอลิคในครั้งต่อไป ก็ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป

สนใจช้อปผลิตภัณฑ์น้ำมันไฮดรอลิคยูคอน ได้ที่