เดี๋ยวนี้คนขับรถรุ่นใหม่ๆ สบายมาก เพราะมีเกียร์ออโต้เข้ามาแทนที่เกียร์ธรรมดา ที่ทำให้ผู้ขับแทบไม่ต้องทำอะไรแล้ว เพราะขับง่ายกว่ากันเยอะ แต่ความง่ายนั้นก็มีกระบบภายในที่ซับซ้อนกว่า และความทนทานน้อยกว่าเกียร์ธรรมดาอยู่มาก ดังนั้นจึงต้องขับแบบรักษาเกียร์ไปด้วย พฤติกรรมต่อไปนี้คนที่ ขับเกียร์ออโต้ ห้ามทำ!
ขับเกียร์ออโต้ ไม่ควรเร่งเครื่องก่อนออกตัว
ไม่ว่าจะเป็นตอนเพิ่งสตาร์ทเครื่อง หรือตอนจอดติดไฟแดง จะเห็นว่าหลายคนชอบเร่งเครื่องแรงๆ ก่อนออกตัว จะเพื่อความรวดเร็วทันใจหรืออะไรก็แล้วแต่ การทำแบบนี้เป็นการทำร้ายรถในระยะยาว เพราะโดยปกติควรให้เกียร์ค่อยๆ ไต่ระดับขึ้นเมื่อรอบถึง การฝืนให้รถเร่งความเร็วตั้งแต่รถยังไม่เคลื่อนที่ จะทำให้เกียร์ รวมไปถึงเพลารถ และยางรถยนต์ พังเร็วขึ้น
เหยียบคันเร่งจนมิด หรือคิกดาวน์บ่อยๆ
ในการขับขี่ปกติก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ในช่วงที่ต้องเร่งแซง ในบางครั้งที่เราจำเป็นต้องแซงรถคันข้างหน้าแต่ความเร็วไม่ถึง ก็ต้องเหยียบคันเร่ง ซึ่งการเหยียบคันเร่งจนมิด ยิ่งทำให้ชุดเกียร์ทำงานหนัก ถ้าทำบ่อยๆ รอบเครื่องไม่สัมพันธ์กัน อัตราทดเกียร์ต่ำลง ทำให้รถไม่มีกำลังพอที่จะเร่งแซง ทำให้กะความเร็วลำบาก ทำบ่อยๆ ชุดเกียร์จะพังไว ดังนั้นไม่ควรเร่งแซงบ่อยๆ หากดูสถานการณ์แล้วคิดว่าจำเป็นต้องแซงก็พยายามให้รอบเครื่องถึงก่อน ถ้าเป็นไปตามรอบเครื่อง การแซงก็ไม่ใช่ปัญหา
รถติดแล้วเข้าเกียร์ P
อีกหนึ่งเรื่องเมื่อจอดรถติดไฟแดง หรือจอดตอนรถติด จอดตรงข้างทาง ไม่ควรเข้าเกียร์ P ไว้ เพราะการเข้าเกียร์ P จะทำให้ชุดเกียร์ยังทำงานอยู่ หากเกิดมีการชนท้ายขึ้นมารถที่เข้าเกียร์ไว้จะเสียหายมากจนทำให้เกียร์พัง ซึ่งไม่ควรใช้อย่างยิ่ง นอกจากจอดในพื้นที่จอด จอดที่บ้าน หรืออาคารจอดรถ แบบนั้นจะสามารถทำได้และปลอดภัยกว่า
เข้าเกียร์ N แล้วปล่อยรถไหล
การที่รถของเราเข้าเกียร์ N หรือเกียร์ว่างอยู่นั้น น้ำมันเกียร์จะไม่ทำงาน ซึ่งไม่ได้เหมาะกับการใช้งานสำหรับตอนที่รถวิ่งอยู่ อย่างบางคนเห็นทางลาดชัน เช่น ลงตลิ่ง ลงสะพาน แล้วเข้าเกียร์ N ปล่อยให้รถไหลไปเองนั้น ในขณะที่รถวิ่ง ชุดเกียร์ก็ยังทำงานอยู่ แต่ไม่มีน้ำมันเกียร์มาหล่อลื่น เสี่ยงต่อการที่มีความร้อนสูงจากแรงเสียดทาน และทำให้ชิ้นส่วนภายในเกียร์เสียหาย ทำให้เกียร์พัง
ลากรถเสีย แบบเคลื่อนที่ได้
การลากรถเวลารถเสีย หากไม่จำเป็น ไม่ควรให้ล้อรถเคลื่อนที่เพราะจะทำให้รถทำงานโดยไม่มีเครื่องยนต์ นั่นก็หมายความว่า ถ้าหากรถคุณขับเคลื่อนล้อหน้า ก็ไม่ควรลากรถแบบให้ล้อหน้าอยู่ติดกับพื้น หรือหากรถคุณขับเคลื่อนล้อหลัง ก็ไม่ควรให้ล้อหลังติดกับพื้น เพราะรถเสียส่วนใหญ่จะไม่ได้สตาร์ทรถไว้ เครื่องยนต์ไม่ทำงาน น้ำมันเกียร์ที่ควรจะทำหน้าที่หล่อลื่นก็ไม่ทำงานด้วยเช่นกัน แต่เมื่อรถลากกับพื้นถนนชุดเกียร์และฟันเฟืองก็ยังคงทำงานไปอยู่อย่างนั้นโดยไม่มีอะไรหล่อลื่น ซึ่งถ้าหากลากไปไกลๆ ไม่เพียงแต่ต้องซ่อมรถในส่วนที่เสียเท่านั้น จะต้องเสียเงินซ่อมเกียร์เพิ่มแน่ๆ แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ก็ต้องลากแบบช้าๆ และรีบไปถึงอู่ที่ใกล้ที่สุด
จะเห็นว่าการขับรถแบบถนอมเกียร์ก็สำคัญ อย่าละเลยจนเกียร์พัง เพราะไม่เช่นนั้น คุณได้จ่ายค่าซ่อมเกียร์แพงแน่ๆ และอย่าลืมใช้น้ำมันเกียร์ที่ได้คุณภาพมาตรฐาน เพื่อเป็นการช่วยยืดอายุการใช้งานให้ได้นานๆ